เวลาไหนที่คุณรู้สึกอยากมองดูดาวบนท้องฟ้ากันบ้าง? คืนที่เจอเรื่องดี ๆ มา หรือเวลาที่อยากลืมเรื่องแย่ ๆ? บางทีก็อาจจะเป็นตอนที่คุณกำลังออกเดทหรือมีเรื่องสำคัญที่อยากบอกกับครอบครัวและเพื่อน ๆ ของคุณก็ได้
แสงของดวงดาวนั้นจางมากจนมองแทบไม่เห็นในที่ที่มีไฟถนนหรือไฟนีออน ดังนั้นการมองดูท้องฟ้าซึ่งเต็มไปด้วยดวงดาวในสถานที่ซึ่งไม่มีไฟจากบ้านเรือนหรือไฟถนน มารบกวนคือสิ่งที่ดีที่สุด และสถานที่เหล่านี้ก็ไม่ได้ตั้งอยู่ใกล้บ้านสักเท่าไหร่ ที่เทือกเขาแอลป์ของญี่ปุ่นแห่งนี้ มีภูเขาหลายลูกตั้งเรียงรายและมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “หลังคาของญี่ปุ่น” เพราะตั้งอยู่ในที่สูงอยู่ใกล้กับท้องฟ้า อีกทั้งไม่มีแสงไฟเล็ดลอดไปถึงได้จึงเหมาะสำหรับการดูดาวเป็นอย่างยิ่ง หนึ่งในนั้นคือหมู่บ้านแห่งดวงดาว Achi ซึ่งได้รับการรับรองจากกระทรวงสิ่งแวดล้อมว่าเป็นสถานที่ที่คุณสามารถเห็นท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น
อีกทั้งท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวจากโรงแรม Senjojiki ซึ่งเป็นโรงแรมที่อยู่ใกล้กับท้องฟ้าที่สุดในญี่ปุ่นก็มีเสน่ห์ชวนให้หลงใหลเช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีจุดชมดาวบนท้องฟ้าหลายแห่งในจังหวัด Nagano เช่น หุบเขา Hakuba,ทะเลสาบ Aoki และ Utsukushigahara ครั้งนี้เราอยากแนะนำการชมท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวของ Achi และ Senjojiki Cirque
Star Village Achi (Achi หมู่บ้านแห่งดวงดาว)
ทุกปีกระทรวงสิ่งแวดล้อมจะทำ "การสำรวจท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว" ด้วยการวัดค่าความสว่างของท้องฟ้ายามค่ำคืน การสำรวจท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวที่ว่าใช้วิธีการที่เรา ๆ คุ้นเคย นั่นคือใช้ตาเปล่าหรือกล้องส่องทางไกล วัดความสว่างของท้องฟ้า โดยในปี 2006 หมู่บ้านแห่งดวงดาว Achi ได้รับการประเมินสูงสุดในการสำรวจ ด้วยเหตุนี้จึงเริ่มจัดทำทัวร์กลางคืน ในชื่อว่า "สรวงสวรรค์บนท้องฟ้า ทัวร์ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น" ขึ้นทุกคืนที่นี่ และสถานที่สำหรับทัวร์คือ Heavens Sonohara ซึ่งตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 1,400 ม. โดยใช้เวลานั่งโรปเวย์ 15 นาทีจากเชิงเขา เดิมที่นี่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นสกีรีสอร์ทฤดูหนาว แต่เนื่องจากเป็นสถานที่ที่ต้องขึ้น Fujimidai Kogen Ropeway จากหมู่บ้าน Achi ตรงเชิงเขา เพื่อไปยังภูเขาด้านบนที่ห่างไกลจากบ้านเรือนและไม่มีไฟถนนส่องถึงได้ จึงมีทัวร์ชมดาวให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินตลอดทั้งปี นอกจากท้องฟ้ายามค่ำคืนแล้ว ในฤดูหนาวยังสามารถสนุกกับการเล่นสกีในตอนกลางวันได้อีกด้วย
ประสบการณ์การทัวร์
มาเข้าร่วมทัวร์กันเถอะ เมื่อมาถึงสถานีโรปเวย์บนยอดเขาแล้วให้เลือกจุดชมดาวกันก่อนเป็นดันดับแรก เวลาปิดไฟคือ 20:00 น. (20:30 น. ในฤดูร้อนและ 19:00 น. ในฤดูหนาว) ไฟที่ติดตั้งในสถานที่ต่าง ๆ จะส่องสว่างไปจนกว่าจะถึงเวลาดับไฟ
พื้นที่ชมดาวแบ่งออกเป็น 3 โซนได้แก่ STAR GUIDE AREA, ENTERTAINMENT AREA และ HERITAGE AREA ที่ STAR GUIDE AREA ซึ่งอยู่หน้าสถานีบนยอดเขา มีไกด์ที่จะแนะนำดาวและกลุ่มดาวที่สามารถมองเห็นได้ในวันนั้นให้เรารู้จัก รวมไปถึงปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่ดึงดูดความสนใจเกี่ยวกับท้องฟ้ายามค่ำคืนให้เพิ่มมากขึ้น หากเดินไปด้านในอีกประมาณ 1 นาที จะพบกับ ENTERTAINMENT AREA ที่มีจอขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ที่นี่คุณจะได้เพลิดเพลินกับการสอดประสานกันอย่างลงตัวของท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาว วิดีโอ และเสียงเพลง และนอกจากนี้ หากคุณเดินต่อไปที่ด้านในอีกประมาณ 1 นาที จะพบกับ HERITAGE AREA ซึ่งคุณสามารถพักผ่อนและเพลิดเพลินกับดวงดาวบนเก้าอี้ปรับเอนได้หรือโซฟาโดยเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
เมื่อตัดสินใจเลือกสถานที่ชมดาวได้แล้ว ให้กางเสื่อออกและนับถอยหลัง หากคุณมีเวลาเหลือ คุณสามารถเดินเล่นรอบ ๆ สถานที่หรือซื้อเครื่องดื่มและอาหารได้ที่ร้านข้างสถานีโรปเวย์บนยอดเขา จากนั้นจะเข้าสู่ช่วงการนับถอยหลังเพื่อปิดไฟ 10, 9, 8, ... 3, 2, 1, แล้วไฟจะปิดลง คุณจะได้ยินเสียงร้อง "ว้าว" จากนักท่องเที่ยวดังขึ้น ความประทับใจจากการได้ชมท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวสุดลูกหูลูกตาในช่วงเสี้ยววินาที จะกลายเป็นความทรงจำที่ยากจะลืมเลือนไปตลอดชีวิตของคุณ
เวลาปิดไฟของทัวร์ท้องฟ้ายามค่ำคือ 30 นาที ในช่วงเวลานี้ทุกอย่างจะเป็นสีดำสนิทและคุณจะไม่สามารถเคลื่อนไหวไปที่ไหนได้ ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องเตรียมตัวรับมือกับความหนาว เนื่องจากอยู่บนระดับความสูง 1,400 เมตร อากาศที่นี่จะเย็นสบายแม้ในฤดูร้อน คนส่วนใหญ่ที่มาดูดาวจะสวมเสื้อสเวตเตอร์บาง เสื้อกันลม หรือห่มผ้า สำหรับผ้าห่มสามารถซื้อผ้าห่มได้ที่ร้าน ที่ Heavens Sonohara มีอัตราท้องฟ้าแจ่มใสอยู่ที่ 60% ทัวร์นี้จะจัดขึ้นทุกคืน แต่ในวันที่มองไม่เห็นดาวเนื่องจากฝนตกหรือมีเมฆมาก จะมีการอธิบายกลุ่มดาวต่าง ๆ โดยใช้โปรเจ็กเตอร์
กิจกรรมร่วมบ JAXA
ในปี 2013 หมู่บ้านแห่งดวงดาว Achi ยังได้จัด JAXA Town Meeting ซึ่งจัดโดย JAXA (หน่วยงานสำรวจอวกาศแห่งประเทศญี่ปุ่น) ในหัวข้อ "เดินทางสู่อวกาศจากหมู่บ้านชมดาวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น" JAXA Town Meeting คือการประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้อยู่อาศัยในพื้นที่เกี่ยวกับการวิจัยและพัฒนาด้านอวกาศและการบิน โดยมีจุดประสงค์ที่จะใช้แนวคิดและนโยบายเพื่อนำไปสู่การพัฒนาอวกาศในอนาคต รวมถึงการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์อวกาศและการพัฒนาเทคโนโลยีการบินโดยการประชุมนี้จะถูกจัดขึ้นในสถานที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ สำหรับการประชุมที่ Achi นั้น มีชาวบ้านในพื้นที่ประมาณ 300 คนเข้าร่วมงาน ในการทัวร์ชมท้องฟ้ายามค่ำคืน พนักงานของโรปเวย์ยังเพิ่มความตื่นเต้นให้นักท่องเที่ยวด้วยการสวมใส่เสื้อผ้าที่คล้ายกับชุดอวกาศ นอกจากนี้ยังมีสินค้าของ JAXA และอาหารอวกาศจำหน่ายที่ร้านค้า ที่นี่มีหลายอย่างให้ได้สนุกนอกเหนือไปจากการชมดาวบนท้องฟ้า
การสร้างหมู่บ้านที่สามารถเพลิดเพลินกับการชมดาวที่สวยสุดในโลก
ในเดือนพฤษภาคม 2019 ผู้คน 2,640 คนที่มาร่วมกันดูดาว ซึ่งได้ทำการสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ไปพร้อม ๆ กันนั้นได้รับการรับรองให้เป็นสถิติโลกของกินเนสส์ และในเดือนมีนาคม 2021 การจัดแสดงดาวที่พับเป็นโอริกามิจำนวนมากที่สุด ก็ได้รับการรับรองให้เป็นสถิติโลกของกินเนสส์ด้วยเช่นกัน เบื้องหลังเรื่องราวเหล่านี้เป็นแนวคิดที่ริเริ่มมาจากการมุ่งเป้าไปที่ "การสร้างหมู่บ้านที่สามารถเพลิดเพลินกับการชมดาวที่สวยสุดในโลก" นอกจากสถิติโลกของกินเนสส์แล้ว ที่นี่ยังสร้างกลเม็ดน่าสนใจต่าง ๆ มากมาย เช่น ใบคำร้องขอจดทะเบียนสมรสลวดลายดวงดาว, การออกป้ายทะเบียนรถลวดลายดวงดาว ฯลฯ ไม่ใช่เพียงเท่านี้ ทางหมู่บ้านยังมีความพยายามในการยกระดับเพื่อสร้างให้เป็นหมู่บ้านที่ทุกคนสามารถเพลิดเพลินกับการดูดาวได้ โดยมีโครงการดูดาวบนท้องฟ้าแบบ AR แห่งแรกของญี่ปุ่นที่จะเริ่มจัดขึ้นใน Namiai ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นพื้นที่ที่สามารถมองเห็นดวงดาวได้งดงามที่สุดในญี่ปุ่นโดยการสังเกตการณ์ของกระทรวงสิ่งแวดล้อมและรวมถึงการอนุรักษ์สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติให้สามารถชมดวงดาวที่สวยที่สุดได้
Hirugami Onsen
อาจิ สตาร์วิลเลจ เป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศญี่ปุ่นสำหรับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว แต่นักท่องเที่ยวภูมิภาคชูบุก็จะไปเยือนฮิรุกามิออนเซ็นซึ่งเป็นที่รู้จักมาช้านานในชื่อ “บ่อน้ำร้อนคนสวย" น้ำแร่อัลคาไลน์ของ Hirugami Onsen เป็นที่นิยมในหมู่ผู้หญิงเพราะทำให้ผิวมีสัมผัสที่นุ่มลื่นและช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วจึงทำให้ผิวเรียบเนียน จาก Nagoya ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ 1 ชั่วโมง 30 นาที และจาก Tokyo และ Osaka 3 ชั่วโมง 30 นาที คุณจึงสามารถเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับได้ เราขอแนะนำให้คุณเพลิดเพลินกับ “บ่อน้ำร้อนคนสวย" ร่วมกับการชมท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว
นอกจากนี้ คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับการเก็บผลไม้ตามฤดูกาล การเดินป่าบนที่ราบสูง และการเล่นสกีในฤดูหนาว ตั้งแต่ฤดูร้อนถึงฤดูใบไม้ร่วง คุณสามารถเก็บเกี่ยวผลไม้ เช่น แอปเปิล, องุ่นมัสกัต, ลูกแพร์ และมะเขือเทศได้โดยตรงที่ฟาร์มและยังรับประทานได้ทันทีอีกด้วย
ตั้งแต่กลางเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคม ดอกพีช 10,000 ต้นที่ปลูกในบริเวณนี้จะบานเต็มที่ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 256 ซึ่งตัดผ่าน Hirugami Onsen มีซุ้มดอกไม้สีแดง สีขาว และสีชมพู ถนนสายนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "Hanamomo Kaido"
เนื่องจากอัตราสภาพอากาศแจ่มใสอยู่ที่ 60% ดังนั้นเพื่อเพิ่มโอกาสในการชม "ท้องฟ้าประดับดาวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น" ขอแนะนำให้มาที่หมู่บ้านแห่งดวงดาว Achi โดยเข้าพักที่ Hirugami Onsen เป็นเวลา 2-3 คืนพร้อมสนุกไปกับกิจกรรมในตอนกลางวัน เช่น เก็บผลไม้, เดินป่า และเล่นสกี นอกจากนี้ในฤดูใบไม้ผลิก็จะมีดอกพีชให้ชื่นชมด้วย
ท้องฟ้าพร่าราวจาก Senjojiki Cirque
สถานที่ที่เหมาะกับการชมดาวนั้น เงื่อนไขหลัก ๆ คือต้องมีไฟถนนรบกวนน้อยที่สุดและมีฝุ่นในอากาศน้อยด้วย สำหรับ Senjojiki Cirque ของภูเขา Komagatake ก็ประกอบด้วยเงื่อนไขตามที่กล่าวมาทั้งหมด เนื่องจากตั้งอยู่ที่ระดับความสูงกว่า 2,600 เมตร และอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แสงไฟจากเชิงเขาเข้าไปไม่ถึงมากนัก ที่นี่คุณจะได้พบกับโรงแรมอยู่ที่ใกล้ชิดกับท้องฟ้ามากที่สุดในญี่ปุ่น นั่นก็คือโรงแรม Senjojiki เป็นการดีที่จะเข้าพักที่โรงแรมนี้เพื่อชมดวงดาวบนท้องฟ้า Senjojiki Cirque ตั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสำหรับการดูดาวบนท้องฟ้าตลอดทั้งปี แต่ในฤดูหนาวความชื้นจะลดลงและไอน้ำจะก่อตัวได้ยากซึ่งช่วยทำให้ท้องฟ้าสดใสมากขึ้น ทางโรงแรม Senjojiki จะจัดกิจกรรมชมดาวบนท้องฟ้าสำหรับผู้เข้าพักในฤดูหนาว ภายในงานจะมีการบรรยายเกี่ยวกับกลุ่มดาวท้องฟ้าโดยไกด์
นอกจากนี้ คุณยังสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นในเช้าตรู่ของวันถัดไปได้อีกด้วย ในเดือนธันวาคม ดวงอาทิตย์จะขึ้นเหนือภูเขาไฟ Fuji เป็นทิวทัศน์อันงดงามที่จะทำให้คุณตะลึงจนแทบหยุดหายใจ
กิจกรรมในกลางวันที่ Senjojiki Cirque
ภูมิประเทศที่เกิดจากธารน้ำแข็งกัดเซาะพื้นผิวภูเขาเป็นเวลาหลายพันปีและสร้างเป็นพื้นที่ทรงครึ่งวงกลมขึ้นมา ที่ Senjojiki Cirque พืชพันธุ์ของที่ราบสูงจะบานสะพรั่งในฤดูร้อน และเมื่อมีหิมะตกสะสม ที่นี่จะถูกใช้เป็นทางลาดสำหรับเล่นสกี ผู้เข้าพักที่โรงแรม Senjojiki สามารถใช้โรงแรมนี้เป็นสถานที่สำหรับการเพลิดเพลินกับกิจกรรมบนภูเขาตามฤดูกาล ได้ เช่น การเดินป่า การชมพืชพรรณไม้ และกิจกรรมหิมะต่าง ๆ Senjojiki Cirque Ski Resort เปิดให้บริการยาวนานขึ้นอีกประมาณหนึ่งเดือนไปจนถึงช่วงปลายเดือนพฤษภาคม คุณจะได้เต็มอิ่มกับหิมะได้ในขณะที่ชมทิวทัศน์อันตระการตาจากที่สูง และยังสามารถเพลิดเพลินกับพืชพรรณบนพื้นที่สูงในฤดูร้อนและชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงได้อีกด้วย
โรงกลั่น Mars Whisky
นอกจากนี้ที่เชิงเขา Senjojiki Cirque ยังมีโรงกลั่น Mars Whisky ซึ่งเป็นโรงกลั่นวิสกี้แห่งเดียวในจังหวัด Nagano วิสกี้ "3 Plus 25" อายุ 28 ปีของ Mars Mortage ได้รับรางวัลสูงสุดในประเภท Blended Malt Whisky ในการประกวด "World Whisky Award (WWA) 2013" ซึ่งสนับสนุนโดยนิตยสารวิสกี้ของอังกฤษ ที่โรงกลั่นนี้คุณสามารถเที่ยวชมโรงงานและชิมอาหารได้ที่บาร์ที่อยู่ติดกันได้ นอกจากนี้ที่นี่ยังผลิตเบียร์ Minami Shinshu และเบียร์คราฟต์อีกด้วย
วัด Kozenji
วัด Kozenji ซึ่งมีตำนานเกี่ยวกับ “Hayataro” สุนัขภูเขาที่กำจัดปีศาจ ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเช่นกัน วัดล้อมรอบด้วยต้นซีดาร์ขนาดใหญ่ และมีอาคารที่แสดงถึงสถาปัตยกรรมทางพุทธศาสนา เช่น ประตูภูเขาและเจดีย์สามชั้น ฯลฯ นอกจากนี้ที่วัดยังมีซากุระกิ่งย้อยและตะไคร่น้ำที่เป็นที่ขึ้นชื่ออีกด้วย
นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นสถานที่ที่เป็นที่มาของตำนาน Hayataro อีกด้วย ในตำนานเล่าว่า Hayataro ซึ่งถูกเลี้ยงอยู่ที่วัด Kozenji ได้พ่ายแพ้ในการต่อสู้กับสัตว์ประหลาดลิงที่น่ากลัวใน Shizuoka ปัจจุบันสามารถหาซื้อเครื่องรางในรูปของ Hayataro ได้
Miharashi Farm
นอกจากนี้ที่ Miharashi Farm ซึ่งอยู่ห่างจากเชิงเขา Senjojiki Cirque โดยใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ 30 นาที ยังมีกิจกรรมที่ผู้ปกครองและเด็ก ๆ สามารถสนุกไปด้วยกันได้ เช่น การเก็บเกี่ยวผลไม้ เช่น องุ่น แอปเปิล สตรอว์เบอร์รี และโซบะทำมือและการทำแยม
สรุป
ที่เทือกเขาแอลป์ของญี่ปุ่น มีจุดอื่น ๆ ที่คุณสามารถเห็นท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวที่สวยงามได้เช่นกัน เช่น หุบเขา Hakuba, ทะเลสาบ Aoki และภูเขา Utsukushihgahara อาจมีหลายครั้งที่คุณรู้สึกเครียดจากการใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบในทุก ๆ วัน หากเวลาใดที่รู้สึกเช่นนั้น อาจเป็นการดีที่จะเติมความสดชื่นด้วยการมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวอันสวยงามของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น