ตอนนี้เป็นเช้าวันศุกร์ ฉันตื่นเร็วเป็นพิเศษ และพร้อมจะปั่นจักรยานไปในบริเวณแอลป์ญี่ปุ่น ฉันอยากไปเที่ยว Azumino เพราะเป็นสถานที่มีชื่อเสียงในด้านการได้สัมผัสประเพณีชนบทญี่ปุ่นอันงดงาม ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของทุ่งวาซาบิที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ และเป็นที่ที่เหมาะสมสำหรับการปั่นจักรยาน ฉันตื่นเต้นกับการเดินทางครั้งนี้มาก Azumino อยู่กลางจังหวัด Nagano ซึ่งได้ประโยชน์จากฝนและหิมะที่ละลายกลายเป็นน้ำสะอาดสำหรับการเกษตร บริเวณที่โล่งเหล่านี้และความสวยงามของธรรมชาติดึงดูดจิตรกรและนักประดิษฐ์ให้มาสร้างสรรค์ผลงานในพื้นที่ของเขา ฉันตั้งใจกับการเดินทางครั้งนี้มาก และได้เตรียมครีมกันแดดและน้ำหนึ่งลิตรสำหรับการปั่นจักรยานในภูเขาทั้งวัน
เมื่อลงจากรถไฟก็ได้พบกับสถานีที่มีเอกลักษณ์คือสถานี Hotaka ซึ่งสร้างตามชื่อของศาลเจ้า Hotaka และเป็นหนึ่งในสถานีที่โดดเด่นที่สุดที่ฉันเคยเห็นในญี่ปุ่น หลังออกจากสถานีก็ได้พบกับท้องฟ้าสีฟ้ากว้างใหญ่ที่ตัดกับสีเขียวของภูเขา Chougatake ภูเขา Jonen และภูเขา Tsubakuro
ปั่นจักรยานที่ Azumino
ที่ราบของ Azumino ตั้งอยู่ใต้ท้องฟ้ากว้าง เป็นจุดที่ที่เหมาะสำหรับการปั่นจักรยาน ทุ่งนาและสวนดอกไม้ไกลสุดลูกหูลูกตาไปจนจรดเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น บริเวณรอบ ๆ มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย การปั่นจักรยานเป็นวิธีการเดินทางที่ง่ายที่สุดในการเดินทางไปแต่ละจุด และยังหยุดชมวิวได้ตลอดทาง
Azumino Cycle Rogaining (เกมปั่นจักรยานล่าสมบัติ Azumino)
เมืองแห่งนี้มีเกมปั่นจักรยานที่ชื่อว่า Azumino Cycle Rogaining เพื่อส่งเสริมการปั่นจักรยาน คุณจะได้ไปเที่ยวสถานที่ตามแผนที่และเก็บคะแนนไว้เพื่อแลกของรางวัลที่ผลิตในท้องถิ่นหรือแลกเป็นที่พักก็ยังได้
รอบ ๆ สถานี Hotaka มีร้านเช่าจักรยานอยู่หลายร้าน เปิดบริการตั้งแต่เดือนเมษายนถึงธันวาคม สมาคมการท่องเที่ยวในท้องถิ่นมีโครงการแบ่งปันจักรยาน ซึ่งให้คุณยืมคืนจักรยานได้ตามจุดที่กำหนด เป็นตัวเลือกที่ดีถ้าคุณวางแผนจะนั่งรถบัสหรือแท็กซี่ในบางเส้นทาง เพราะไม่จำเป็นต้องกลับไปคืนจักรยานที่จุดเริ่มต้นอีกรอบ แต่เพราะฉันมาเพื่อปั่นจักรยานเลยขอไปร้านเช่าจักรยาน Shinano-an แทน
สำหรับการเช่ามีให้เลือก 2 อย่าง คือครอสไบค์หรืออีไบค์ ถ้าคุณไม่เคยขี่อีไบค์มาก่อน ฉันอยากให้ลองเลือกขี่อีไบค์ดู เพราะเมื่อตัวฉันเองได้ลองเร่งเครื่องครั้งแรกฉันรู้สึกประหลาดใจกับการเคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างเร็วมาก ช่วงแรกจะรู้สึกสั่น ๆ แต่พอขึ้นเนินก็ได้รู้ว่าอีไบค์มีประโยชน์เป็นอย่างมาก เพราะปีนขึ้นเนินได้อย่างง่ายดาย
ขณะที่ปั่นไปตามเส้นทางที่มีทิวทัศน์ที่งดงาม ขนาบข้างด้วยแม่น้ำใสบริสุทธิ์จากเทือกเขา มีแหล่งตกปลาแซลมอน Nijimasu เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นในช่วงเช้าตรู่ หยาดน้ำกระเซ็นเป็นประกายเพราะแซลมอนว่ายในน้ำเย็น เมื่อปั่นต่อไปจะได้พบกับวิวอันน่าทึ่งของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นจากระยะไกล เมื่อมองจากริมฝั่งแม่น้ำคุณจะได้เห็นวาซาบิในลำน้ำใส วาซาบิเป็นวัตถุดิบหลักของอุตสาหกรรมการเกษตรของ Azumino และในวันนี้ฉันจะได้ลองชิมด้วย! ระหว่างทางมีหลายจุดที่เปิดให้ถ่ายภาพของภูเขาจากระยะไกล ก่อนที่จะปั่นผ่านทุ่งนาเขียวขจี
เมื่อเดินผ่านทุ่งนา คุณจะพบเห็นสวนส่วนตัวมากมาย และได้เพลิดเพลินกับบ้านเรือนที่สวยงามของผู้คนในท้องถิ่น เมื่อสังเกตเห็นเส้นทางเล็ก ๆ ที่ออกจากเส้นทางหลักที่เลือกไว้ ฉันก็เกิดความอยากรู้อยากเห็น ฉันจึงลองเดินตามเส้นนั้นไปจนได้พบกับ Daio Wasabi Farm ซึ่งเป็นไร่วาซาบิที่ใหญ่ที่สุดในโลก
Daio Wasabi Farm
วาซาบิมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานในวัฒนธรรมญี่ปุ่น ในตอนแรกวาซาบิถูกใช้เป็นยาสมุนไพร แต่ต่อมาก็นำมาปรุงอาหารญี่ปุ่น ให้รสชาติกับซุป และปรุงแต่งรสอาหารหลากหลายชนิด วาซาบิไม่เพียงมีรสชาติเข้มข้นและเป็นเอกลักษณ์เท่านั้น แต่ก็ยังมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียด้วย นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่มีการใช้วาซาบิกับปลาดิบอย่างในเมนูซูชิและซาชิมิ คุณจะพบวาซาบิใช้ประกอบอาหารญี่ปุ่นยอดนิยมมากมาย เช่น โซบะ, เนื้อย่าง, ปลาไหล, ข้าว Chazuke และอีกมากมาย
การปลูกวาซาบิ คุณต้องมี 2 อย่าง คือร่มเงาที่เพียงพอและน้ำเย็นที่ไหลรินหลายตัน พอได้มาเห็นก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม Azumino ถึงมีวาซาบิมากมาย! น้ำแร่บริสุทธิ์ของ Azumino จากหิมะที่ละลายมาจากเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นซึ่งเป็นน้ำแร่ใต้บาดาล เป็นหนึ่งในร้อยสายน้ำที่น่าจดจำที่สุดของญี่ปุ่น
Daio Wasabi Farm เกิดขึ้นจากน้ำแร่เหล่านี้ โดยเริ่มต้นในปี 1915 โดยเริ่มวางทางเดินหินและปลูกในทุ่งกว้างเพื่อให้นักท่องเที่ยวมองเห็นได้ง่าย และภาพยนตร์เรื่อง Dream ของผู้กำกับ Akira Kurosawa ในปี 1990 ก็มาใช้สถานที่แห่งนี้ในการถ่ายทำ Daio Wasabi Farm แห่งนี้มีวาซาบิอยู่กว่า 15 เฮกเตอร์และได้รับการดูแลอย่างดีเพื่อป้องกันต้นวาซาบิจากแสงอาทิตย์ ต่อมาไร่แห่งนี้ได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชมมากขึ้นเรื่อย ๆ เจ้าของไร่ได้พัฒนาพื้นที่สำหรับร้านอาหารและขายของที่ระลึกหลายแห่ง
หลังจากเดินดูรอบ ๆ แล้ว ฉันมารับประทานอาหารที่ร้าน Oasis และทานสเต็กกับซอสเดมิกลาสและวาซาบิขูดสด แม้ว่าฉันจะเคยทานวาซาบิหลายครั้ง แต่ว่ารสชาติของวาซาบิวันนี้แตกต่างจากที่เคยทานมา มันไม่เผ็ดจนแสบตาเหมือนปกติ รสชาติละเอียดนุ่มนวลและมีรสหวานค้างอยู่ในลำคอเมื่อทานร่วมกับอาหารรสชาติเข้ากันเป็นอย่างดี
หลังอาหารกลางวัน ฉันได้เลือกดื่มกาแฟที่ DAIO's CAFE ชงโดยใช้น้ำบริสุทธิ์ของ Azumino กาแฟรสเบาและสดชื่นเหมาะสำหรับหลังมื้ออาหาร ฉันยังจำรสชาติของน้ำบริสุทธิ์นั้นได้อยู่เลย หลังจากนั้น ฉันได้ไปชมศิลปะทุ่งนาของ Azumino
ศิลปะบนนาข้าว Azumino
ฉันปั่นผ่านถนนข้าวทางผ่านทุ่งนาที่มาพร้อมทิวทัศน์อันสวยงามของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นสองข้างทาง การได้ชมวิวและสูดอากาศบริสุทธิ์ก็ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและสดชื่น
เมื่อมาถึงฉันได้รับการต้อนรับและพาไปด้านบนของนั่งร้านที่สร้างอย่างปราณีต คุณจะพบกับความน่าประทับใจของศิลปะนาข้าวซึ่งเกินคาดมาก ๆ ศิลปะเหล่านี้ใช้แรงงานคนกว่า 300 คนและเวลากว่า 4 วันในการเตรียมแปลงนา พวกเขาปลูกข้าวกว่า 7 ชนิดเพื่อสร้างสีสันต่าง ๆ และใช้เครื่องหมายเพื่อวางแผนว่าข้าวจะไปเติบโตไปทิศทางใด สีสันก็ผสมผสานกันเพื่อสร้างศิลปะที่สวยงามและสมบูรณ์แบบเมื่อมองจากด้านบนของร้าน
เมื่อลงมาแล้ว มีวิดีโอและรูปบอกเล่าเรื่องราวการทำเครื่องหมายตอนปลูกให้ชม ศิลปะบนนาข้าวอาจไม่ถูกจัดขึ้นในปีหน้าเพราะยังเป็นการจัดแสดงที่ยังใหม่อยู่ ต่อมาฉันปั่นจักรยานไปที่สตูดิโอแก้ว Azumino
ศิลปะบนนาข้าวปีนี้เป็นภาพของ Mitake Umi นักซูโม่ชาว Nagano
รูปแบบการปลูกข้าวของศิลปะบนนาข้าวของปีนี้
สตูดิโอแก้ว Azumino Glass Studio
สตูดิโอแก้วตั้งอยู่ด้านหลัง Azumino Commune Tirol ที่มาทานอาหารกลางวันและดื่มกาแฟได้ นอกจากนี้ ยังเลือกซื้อของที่ระลึกจากผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เช่น น้ำสลัดวาซาบิ ด้านหน้าอาคารมีน้ำพุที่ไหลจากน้ำบริสุทธิ์ของ Azumino อากาศตรงนี้เย็นและสดชื่น และเมื่อฉันอิ่มหนำจากน้ำบริสุทธิ์แล้ว ก็เดินทางไปสตูดิโอแก้ว Azumino
การประชุมเชิงปฏิบัติการก่อตั้งในปี 1985 โดยกลุ่มศึกษาการออกแบบงานฝีมือของมหาวิทยาลัยศิลปะ Tama กับอดีตเมือง Toyoshina การจ้างงานในอุตสาหกรรมเครื่องแก้วนั้นมีลู่ทางที่ค่อนข้างน้อยสำหรับบัณฑิตที่ไม่มีประสบการณ์ ดังนั้น สตูดิโอนี้เป็นสถานที่สำหรับให้บัณฑิตทำงานและฝึกฝนทักษะของตน บัณฑิตห้าคนทำงานอยู่ที่นี่ก่อนที่จะหางานทำและเปิดที่ว่างไว้ให้บัณฑิตคนใหม่ ๆ เข้ามา
สตูดิโอเต็มไปด้วยผลงานต้นฉบับที่สร้างสรรค์โดยเจ้าหน้าที่ ที่แห่งนี้ยังมีห้องเรียนทำแก้วที่คุณสามารถทำของที่ระลึกส่วนตัวได้ คุณจะได้เลือกแบบที่มีสี่แบบ สีและสไตล์โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาทีโดยมีคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ แม้ว่าจะไม่มีการสอนเป็นภาษาอังกฤษแต่มีคำบรรยายเป็นภาษาอังกฤษไว้ให้ และพนักงานทุกคนจะพยายามสื่อสารกับคุณอย่างเต็มที่
ศาลเจ้า Hotaka
เมื่อใกล้ถึงศาลเจ้า คุณจะพบการสร้างเรือทางซ้ายมือซึ่งดูแปลกนิดหน่อยเพราะบริเวณนี้อยู่บนภูเขา แต่ตามประวัติศาสตร์ ชาว Azumi เป็นชาวทะเลจากภูมิภาค Kyushu ที่อพยพไปยังภูเขา Nagano และความทรงจำของพวกเขายังคงอยู่ที่ศาลเจ้า Hotaka
จนกระทั่งทุกวันนี้ เทพเจ้าของศาลเจ้ายังเชื่อมโยงกับการคมนาคมขนส่ง โดยเฉพาะความปลอดภัยด้านการจราจร เมื่อซื้อรถใหม่ คนมากมายนำมาขับผ่านประตู Torii เพื่อชำระให้บริสุทธิ์ให้แก่รถ แม้แต่นักปีนเขาท้องถิ่นก็มาที่ศาลเจ้าเพื่อสวดภาวนาเพื่อความปลอดภัยในการเดินป่า ฉันควรมาที่ศาลเจ้าแห่งนี้ก่อนออกไปปั่นจักรยานนี่นา
บรรยากาศของศาลเจ้าทำให้รู้สึกถึงความเงียบสงัด เมื่อคุณเดินผ่านประตู Torii เข้ามา เสียงจากภายนอกก็เงียบลง ต้นไม้สูงที่ล้อมศาลเจ้าได้บังเสียงเหล่านั้นเอาไว้ และต้นไม้บริเวณศาลเจ้าดูน่าเกรงขาม ฉันหลงรักต้นไม้แบบนี้ในทุกศาลเจ้าที่ได้ไปเยี่ยมชมในประเทศญี่ปุ่น ความสูงและลำต้นของต้นไม้เหล่านี้บ่งบอกความน่าเกรงขามและอายุของสถานที่แห่งนี้ ฉันมาตรงกับช่วงเทศกาลกระดิ่งลมพอดี ทำให้เจอกระดิ่งลมหลายอันแขวนอยู่บริเวณกลางศาลเจ้า
พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Rokuzan Art Museum
จนถึงตอนนี้ ฉันเดินทางได้เร็วกว่าตารางเล็กน้อยและมาถึงก่อนที่รถไฟจะมา จึงตัดสินใจปั่นไปที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Rokuzan Art Museum ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 1958 เพื่อจัดเก็บและจัดแสดงผลงานของ Moriye Ogihara หรือที่รู้จักในนาม Rokuzan เขาผู้นี้เป็นชาวเมือง Azumino และเป็นผู้บุกเบิกประติมากรรมทองเหลืองสไตล์ตะวันตกในประเทศญี่ปุ่น
พิพิธภัณฑ์เต็มไปด้วยสีเขียว ผลงานศิลปะและอาคารจากอิฐที่สวยงาม Rokuzankan มีโครงสร้างคล้ายโบสถ์ที่สวยงามซึ่งเป็นที่จัดแสดงผลงานที่มีชื่อเสียงของ Rokuzan ไม่ว่าจะเป็น "Portrait of Torakichi Hojo" หรือ "The Miner" หลังจากใช้เวลาอยู่บนจักรยานมาทั้งวัน พอได้มานั่งบนม้านั่งและดื่มด่ำกับงานศิลปะเหล่านี้ก็เป็นการพักผ่อนที่เงียบสงบและร่มเงาเหล่านี้ก็ทำให้วันนี้จบลงอย่างสมบูรณ์
ส่วนที่ดีที่สุดของการเดินทางไป Azumino ครั้งนี้คืออิสระที่ได้จากการปั่นจักรยาน คุณจะเดินทางไปในที่ที่ต้องการและใช้เวลาดื่มด่ำกับวิวธรรมชาติที่สวยงามทำให้ได้ปลดปล่อยและผ่อนคลาย เมื่อนึกถึงการท่องเที่ยวในวันนั้น ฉันดีใจที่ได้ลงมือทำทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นท้ศนียภาพที่สวยงามเทีอกเขาแอลป์ญี่ปุ่น วาซาบิที่สดชื่นของ Daio Wasabi Farm งานฝีมือที่สวยงามที่สตูดิโอแก้ว Azumino Glass Studio ความเงียบสงบของศาลเจ้า Hotaka และศิลปะที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Rokuzan Art Museum ที่มีศิลปะและประวัติศาสตร์มากมาย แต่ก็ยังแนะนำได้มากพอให้คุณมาเยี่ยมชมและปั่นจักรยานออกไปสัมผัสพื้นที่เหล่านี้ด้วยตัวของคุณเอง ณ ใจกลางเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น