
นากาโน่ จังหวัดที่มีภูมิทัศน์เป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน จนได้รับการขนานนามว่าเป็น”หลังคาแห่งญี่ปุ่น” และสถานที่ที่เหมาะจะเป็นส่วนบนสุดของหลังคาก็น่าจะเป็นเส้นทางทาเตยามะ คุโรเบะ อัลไพน์ ที่คุณจะได้สัมผัสกับวิธีการเดินทางที่หลากหลายตลอดเส้นทาง เริ่มตั้งแต่ที่โอมาจิ (ระดับความสูง700เมตร) ข้ามเขื่อนคุโรเบะขนาดมหึมาอันเป็นความ
มหัศจรรย์ทางวิศวกรรมสมัยใหม่ ไปสู่มูโรโดะ (ระดับความสูง2450เมตร) สถานที่ตั้งของกำแพงหิมะอันเลี่องชื่อด้วยแนวหิมะที่สูงถึง20เมตร นอกจากนี้ เส้นทางอัลไพน์ยังเป็นจุดชมทัศนียภาพใบไม้เปลี่ยนสีอันตระการตาบนเทือกเขาอัลไพน์ในฤดดูใบไม้ร่วงอีกด้วย
การเดินทางที่หลากหลาย

หนึ่งในความน่าตื่นเต้นบนเส้นทางสายทาเตยามะ คุโรเบะ อัลไพน์ คือความหลากหลายของวิธีการเดินทาง ซึ่งมีทั้งรถบัสไฟฟ้าที่วิ่งในอุโมงค์ รถราง และกระเช้าลอยฟ้า จากสถานีชินาโน่โอมาจิ บนสายJRโออิโตะ นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถบัสไปโอกิซาว่า(ระดับความสูง1433เมตร) ซึ่งเป็นประตูสู่เส้นทางอัลไพน์ทางฝั่งนากาโน่ (รถยนต์ส่วนตัวก็ไปได้ไกลแค่โอกิซาว่าเช่นกัน) จากโอกิซาว่าต่อรถบัสไฟฟ้าลอดอุโมงค์คันเดนที่มีความยาว6.1กม. ไปยังเขื่อนคุโรเบะ (ระดับความสูง1470เมตร) จากนั้นเดินข้ามสันเขื่อนเพื่อไปขึ้นรถรางใต้ดิน ไต่ขึ้นสู่คุโรเบะไดระ (ระดับความสูง1828เมตร) ที่คุณจะได้เห็นทัศนียภาพมุมสูงของทะเลสาบคุโรเบะ ถัดมาเป็นกระเช้าไฟฟ้าลอดผ่านภูเขาทาเตยามะ ไปยังมูโรโดะ (ระดับความสูง2450เมตร) อันเป็นที่ตั้งของกำแพงหิมะอันเลื่องชื่อ สำหรับผู้ที่กล้าหาญและเตรียมตัวมาอย่างดีสามารถใช้มูโรโดะเป็นจุดเริ่มต้นในการปีนเขาทาเตยามะ(ระดับความสูง3015เมตร) ที่ว่ากันว่าเป็นภูเขาที่ศักดิ์สิทธิที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น
จากมูโรโดะ เส้นทางยังคงมีต่อไปถึงสถานีโทยามะ ศุนย์กลางของจังหวัดโทยามะซึ่งเป็นจังหวัดที่อยู่ติดกับจังหวัดนากาโน่ และเป็นสถานีจอดรถไฟฮกคุริคุชินคังเซน เส้นทางตลอดสายตั้งแต่สถานีชินาโน่โอมาจิ จนถึงสถานีโทยามะ ใช้เวลาอย่างน้อย6ชั่วโมง ค่าโดยสาร10,850เยน ส่วนการเดินทางไป-กลับระหว่างโอกิซาว่ากับมูโรโดะ ใช้เวลา5-7ชั่วโมง ค่าโดยสาร9,050เยน โดยปรกติ เส้นทางนี้จะเปิดตั้งแต่กลางเดือนเมษายน จนถึงปลายเดือนพฤศจิกายน และปิดในช่วงฤดูหนาวเนื่องจากหิมะตกหนัก สำหรับปีค.ศ.2016 เส้นทางจะเปิดตั้งแต่16เมษายน ถึง30 พฤศจิกายน

เขื่อนคุโรเบะอันอลังการ

เขื่อนคุโรเบะเป็นความสำเร็จอังยิ่งใหญ่ทางวิศวกรรม ด้วยความสูงชันของเขื่อนทำให้ผู้พบเห็นรู้สึกว่าตัวเองเป็นเพียงส่วนประกอบอันน้อยนิด (เป็นเขื่อนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น มีความสูงถึง186เมตร) ความใหญ่โตมโหฬารที่สร้างขึ้นด้วยน้ำมือมนุษย์นี้ แลกมาด้วย171ชีวิตที่สูญเสียไปในระหว่าง17ปีของการก่อสร้าง เขื่อนแห่งนี้สร้างเสร็จในปีค.ศ.1963 เป็นแหล่งพลังงานสำคัญที่นำมาใช้พัฒนาประเทศญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่2 เขื่อนมีความยาว423เมตร และเป็นเขื่อนคอนกรีตมีปริมาตรมากกว่า1.5ล้านลูกบาศก์เมตร ที่ปล่อยน้ำผ่านเครื่องกำเนิดไฟฟ้า4เครื่อง ให้ปริมาณน้ำถึง10ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ถึงพันล้านกิโลวัตต์ต่อปี ช่วงระหว่างปลายเดือนมิถุนายนถึงกลางตุลาคม น้ำปริมาณมหาศาลจะถูกปล่อยออกจากทางน้ำล้น(spillway) สร้างสายรุ้งขนาดใหญ่ให้ผู้มาเยือนได้ชื่นชม
คุณสามารถล่องเรือในทะเลสาบหลังเขื่อนด้วยเรือสำราญ “การุเบะ” (ใช้เวลา30นาที เปิดให้บริการในช่วงต้นมิถุนายนจนถึงกลางพฤศจิกายน) นอกจากนี้ร้านอาหารในเขื่อนยังเสิร์ฟอาหารเมนูพิเศษ ได้แก่ ข้าวราดแกงกะหรี่คุโรเบะ ซึ่งก็คือแกงกะหรี่ญี่ปุ่นรสเลิศราดมาหลังเขื่อนที่ทำด้วยข้าวนั่นเอง
กำแพงหิมะและสีสันแห่งฤดูใบไม้ร่วง

เมื่อรถบัสแล่นเข้าสู่มูโรโดะผ่านช่องหิมะที่เพิ่งถูกขุดใหม่ในต้นฤดูใบไม้ผลิ กำแพงหิมะนั้นจะมีความสูงถึง20เมตร โดยปรกติ หิมะบนยอดของคุโรเบะทาเตยามะอัลไพน์หนามากจนไม่สามารถละลายได้หมดจนถึงปลายฤดูร้อน ลองคิดดูซิว่ามันจะชิลแค่ไหนถ้าได้เล่นปาหิมะกลางเดือนสิงหาคมซึ่งเป็นฤดูร้อนของญี่ปุ่น!

ฤดูใบไม้ร่วงมาถึงเร็วกว่าที่อื่นมากบนที่ที่มีความสูงขนาดนี้ ใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนสีที่มูโรโดะปลายเดือนกันยายน และยังคงไว้ซึ่งสีสันแห่งฤดูใบไม้ร่วงต่อไปอีก6อาทิตย์จนถึงต้นพฤศจิกายนในโอกิซาว่าและตัวเมืองโอมาจิ ทะเลสาบคุโรเบะดูงดงามจับตาเมื่อโอบล้อมด้วยเทือกเขาแอล์ปในสีสันอันเจิดจรัสของฤดูใบไม้ผลิ
สถานที่น่าสนใจใกล้เคียง
การท่องเที่ยวบนเส้นทางทาเตยามะ คุโรเบะ อัลไพน์อาจเป็นการเดินทางที่เหนื่อย ไม่มีอะรจะดีไปกว่าการได้แช่ตัวในบ่อน้ำพุร้อน เส้นทางระหว่างโอกิซาว่าและตัวเมืองโอมาจิ มีหมู่บ้านอองเซนของโอมาจิให้ท่านได้ผ่อนคลายหลังจากสมบุกสมบันมาทั้งวัน หนึ่งในนั้นคือยาคุชิโนะยุ ซึ่งมีบ่อน้ำร้อนกลางแจ้งน่ารักในป่าธรรมชาติ ติดกันเป็นพิพิธภัณฑ์อองเซนแอลป์ สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาความเป็นมาของอองเซนT
สถานที่ที่เป็นที่นิยมอื่นๆในบริเวณนี้ยังรวมไปถึง รีสอร์ทบนภูเขาในฮาคุบะสำหรับผู้ชื่นชอบกิจกรรมผจญภัยกลางแจ้ง ปราสาทมัตสึโมโต้ และฟาร์มวาซาบิไดโอ
การเดินทาง
โดยรถโดยสารสาธารณะ
จากมัตสึโมโต้ (ซึ่งเป็นสถานีเชื่อมต่อของรถไฟด่วนจากสถานีนาโกย่าและสถานีชินจูกุในโตเกียว) ขึ้นรถไฟJRโออิตะ ไปลงที่สถานีชินาโน่โอมาจิ (รถไฟธรรมดาใช้เวลา55นาที หากเป็นรถไฟด่วนใช้เวลา36นาที), จากนากาโน่ (เป็นสถานีหยุดของรถไฟหัวกระสุนฮกคุริคุชินคังเซน) นั่งรถบัสด่วนของบริษัทอัลพิโก มาลงที่โอกิซาว่า (ใช้เวลา1ชั่วโมง45นาที)
โดยทางรถยนต์
จากจุดลงทางด่วนอาซูมิโนะ บนทางด่วนสายนากาโน่ใช้เส้นทางสาย306และ45มุ่งสู่โอกิซาว่า(ระยะทาง41กม. ใช้เวลาประมาณ50นาที)