ภาพสีหน้าอันอิ่มเอิบประดับอยู่บนวงหน้าน่ารักของลิงกังญี่ปุ่น บนหัวปกคลุมด้วยหิมะขณะแช่ตัวในบ่อน้ำพุร้อนที่มีไอขาวลอยอ้อยอิ่งอยู่รายรอบนั้นกลายเป็นภาพที่ได้รับการกล่าวขานไปทั่วโลก ไม่มีทริป ท่องเที่ยวญี่ปุ่นทริปไหนจะสมบูรณ์ไปได้ หากไม่ได้มาชมและถ่ายภาพยอดฮิตของ “ลิงหิมะ”ในอุทยานลิงภูเขาจิโกคุดานิแห่งนี้ และอย่าลืมชาร์จแบตเตอรี่กล้องถ่ายรูปของคุณให้เต็มก่อนไป เพราะเป็นที่แน่นอนว่าคุณจะได้ถ่ายภาพเป็นร้อยๆภาพของลิงกังที่น่ารักจนสุดห้ามใจ
ลิงป่าเหล่านี้อยู่ในสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติของมัน ลิงเด็กๆพากันกระโจนเข้าออกจากบ่อน้ำพุร้อนอย่างสนุกสนาน ในขณะที่แม่ๆดูแลลูกลิงเล็กๆโดยมีจ่าฝูงคอยระแวดระวังภัยให้กับฝูง โครงสร้างสังคมอันน่าทึ่งเหล่านี้ คุณสามารถสัมผัสได้ด้วยตัวเองโดยตรงในวงล้อมของฝูงลิง ไม่ใช่เพียงสังเกตผ่านกรงตาข่ายในสวนสัตว์
ในอุทยานลิงภูเขา
อุทยานลิงภูเขาจิโกคุดานิ เป็นสวนวิจัยแห่งแรกและแห่งสำคัญของญี่ปุ่น ลิงได้รับอาหารมากเพียงพอที่มันจะไม่ไปคุ้ยเขี่ยหาอาหารขยะภายนอก แต่ไม่มากจนทำให้พวกมันต้องพึ่งพาอาหารจากมนุษย์ สมญา “ลิงหิมะ”บอกให้รู้ว่าสวนนี้ตั้งอยู่ในเมืองหิมะซึ่งโดยปรกติไม่ใช่ถิ่นที่อยู่ของสัตว์ประเภทลิง ไม่มีใครรู้ว่าลิงเหล่านี้ค้นพบบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ครั้งแรกเมื่อไหร่ แต่ที่แน่ๆพวกมันค้นพบและทำให้สวนแห่งนี้กลายเป็นสถานที่แห่งเดียวในโลกที่มีลิงแช่บ่อน้ำพุร้อนตามธรรมชาติสืบต่อมา
มีฝูงลิงอาศัยอยู่ในจิโกคุดานิมากกว่า200ตัว ลิงที่เกิดในฤดูใบไม้ผลิจะเติบโตเป็นลูกลิงตัวเล็กๆขนฟู วิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนานไปทั่วบริเวณ ทำให้แม้แต่การไปเยือนในฤดูร้อนก็ให้ความประทับใจไม่แพ้ในฤดูหนาวเลยทีเดียว อุทยานลิงภูเขาตั้งอยู่สุดทางเดินที่ทอดยาวผ่านป่าสนอันสวยงาม ระยะทางเดิน30นาทีจากคันบายาชิ สามารถไปถึงได้อย่างสะดวกสบายใช้เวลาเดินทาง45นาทีโดยรถบัสจากสถานีนากาโน่
หลังจากดูลิงแล้ว
ข้อได้เปรียบอย่างหนึ่งของการไปดูลิงหิมะก็คือ อุทยานลิงภูเขาจิโกคุดานิ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากทั้งแหล่งอองเซนเลื่องชื่อใน ยูดานาคะ-ชิบุ และสกีรีสอร์ทชิกะโคเกน เพียงเดินทางลงมาตามแม่น้ำจากอุทยาน จะพบกับเมืองชิบุอองเซน ซึ่งโดดเด่นด้วยพื้นถนนที่ปูเรียงด้วยหินก้อนโตๆสวยคลาสสิก สองข้างทางเรียงรายด้วยเรียวคังไม้หลายชั้น บางแห่งดูเหมือนถอดแบบมาจากหนังอนิเมชั่นเลยทีเดียว แขกที่มาพักที่นี่สามารถสวมชุดยูคาตะและรองเท้าแตะไม้เกตะ เดินแวะเวียนเข้าห้องอาบน้ำสาธารณะต่างๆในบริเวณนั้นได้
หรือคุณจะผ่านจิโกคุดานิขึ้นไปทางชิกะโคเกน ซึ่งเป็นแหล่งชุมนุมของเหล่าสกีในฤดูหนาว และ สวรรค์ของนักเดินป่าในฤดูร้อน
เมื่อกลับลงมายังเมืองนากาโน่ ยังมีวัดเซ็นโคจิที่ไม่ควรพลาดเด็ดขาด และ โอบุเสะ เมืองแห่งเกาลัด อันเป็นจุดแวะพักยอดนิยมระหว่างทางอีกด้วย
การเดินทาง
สวนแห่งนี้ตั้งอยู่สุดทางเดินระยะทาง30นาทีจากต้นทางที่คันบายาชิอองเซน บริษัทนากาเดนบัส ให้บริการรถบัสสายด่วนจำนวนจำกัดในแต่ละวัน จากสถานีนากาโน่ (ทางออกฝั่งตะวันออก, ป้ายหมายเลข3) และจากสถานีอียามะ ไปยังชิกะโคเกน ซี่งหยุดให้ลงที่คันบายาชิ อองเซน (ป้าย “Snow Monkey Park” , ประมาณ45นาที, 1400เยน) หรือ ใช้บริการรถไฟซึ่งมีหลายเที่ยวกว่า จากสถานีนากาโน่ สาย นากาโน่เดนเทตสึ (เริ่มออกเป็นรถไฟใต้ดิน จากสถานีทางด้านประตูออกฝั่งเซ็นโคจิ นั่งไปจนสุดสายที่สถานียูดานากะ รถด่วนใช้เวลา 50 นาที, 1260เยน / รถไฟธรรมดาใช้เวลา 70+นาที, 1160เยน) จากสถานียูดานากะ ต่อรถบัสนากาเดน สายท้องถิ่น ที่มุ่งไปยังชิกะโคเกน (ป้าย “Snow Monkey Park” , ใช้เวลา 7นาที, 210เยน) หรือรถบัสที่มุ่งไปยังคันบายาชิ อองเซน (ป้าย คันบายาชิ อองเซน ซึ่งอยู่ใกล้ปากทางมากกว่า, ใช้เวลา15นาที, 210เยน) ในช่วงฤดูหนาว ชิบุอองเซน ให้บริการบัสรับส่งพิเศษ(Holiday Shuttle Bus)ในวันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุดราชการ โดยออกจากสถานียูดานากะ หยุดแวะรับที่ชิบุอองเซน แล้วไปสุดสายที่ลานจอดรถของจิโกคุดานิ ซึ่งไม่สามารถเข้าไปได้ด้วยวิธีอื่น(ในฤดูหนาว) (800 เยน, ควรจองล่วงหน้า) จากลานจอดรถนี้ไปถึงสวน ใช้เวลาสั้นกว่า(เพียง15นาที) แต่ทางเดินลาดชันกว่า
Snow Monkey Pass
หมายเหตุ: บริษัทรถไฟ นากาโน่เดนเทตสึ เสนอแพคเก็จบัตร Snow Monkey Pass ซึ่งสามารถเดินทางในเส้นทางดังกล่าวข้างต้นได้ทั้งหมดด้วยราคาพิเศษ (เพียง2,900เยน รวมค่าบัตรเข้าชมสถานที่ สามารถซื้อได้หน้าทางเข้าสถานีรถไฟ นากาโน่เดนเทตสึ ที่สถานีนากาโน่)
โดยทางรถยนต์
จากจุดลงทางด่วน ชินชูนากาโน่ IC บนทางด่วนโจชิน-เอทสึ วิ่งไปตามถนนสาย292(ชิกะ-นากาโน่ โทลเวย์) มุ่งหน้าไปทาง คุทสึโนะชิบุ IC เพื่อเข้าลานจอดรถของจิโกคุดานิ (เบอร์โทรศัพท์ 0269-33-5733 สำหรับใช้หาเส้นทางในGPS, ห้ามเข้าในฤดูหนาว) จากจุดนี้เดินไปยังสวน ใช้เวลาสั้นกว่า(15นาที) แต่ทางเดินลาดชันกว่า ในฤดูหนาว กรุณาใช้ลานจอดรถของยาเอนโคเอน ซึ่งอยู่ที่ต้นทางเดินด้านคันบายาชิ อองเซน (ใกล้ Enza Café, เบอร์โทรศัพท์ 0269-38-1736)