ด้วยทำเลที่ตั้งบนถนนเส้นหลักที่เป็นจุดสิ้นสุดเขตจังหวัด Nagano หมู่บ้านออนเซ็น Omachi หรือที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในอีกชื่อหนึ่งคือเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทาง Tateyama Kurobe Alpine Route ในหมู่นักท่องเที่ยวมือฉมังรู้กันเป็นอย่างดีว่าเมือง Omachi แห่งนี้ไม่ได้มีดีแค่เป็นที่พักแช่ออนเซ็นก่อนเดินทางต่อไปยัง Alpine Route เท่านั้น และนี่คือสิ่งน่าสนใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คุณจะสามารถดื่มด่ำกับหมู่บ้าน Omachi ได้ เริ่มที่ ประวัติออนเซ็น หุบเขาอันห่างไกล วัดแห่งความลับ เทศกาลที่ไม่ซ้ำใคร อาหารสุดล้ำ และอื่น ๆ รอให้คุณได้มาสัมผัสที่ Omachi
พิพิธพัณฑ์ Omachi Onsen Museum สำหรับเหล่าคนรักออนเซ็น
คุณเคยสงสัยไหมว่าน้ำแร่ออนเซ็นที่คุณแช่นั้นมาจากไหน? พิพิธภัณฑ์ Omachi Onsen Museum ที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านออนเซ็น มีที่แช่ออนเซ็นสาธารณะชื่อ Yakushi-no-Yu ที่จะมาช่วยตอบคำถามคาใจนี้ให้คุณ ชุดจัดแสดงภายในพิพิธภัณฑ์มีอุปการณ์ต่าง ๆ ที่ใช้สำหรับปั๊มและกระจายน้ำแร่ออนเซ็นไปยังที่ต่าง ๆ รวมถึงมีการจัดแสดงเกี่ยวกับน้ำแร่ออนเซ็นประเภทต่าง ๆ ในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย หลังจากเดินชมพิพิธภัณฑ์ออนเซ็นแล้วคุณสามารถผ่อนคลายกับการแช่ออนเซ็นได้ที่ห้องอาบน้ำที่อยู่ติดกับพิพิธภัณฑ์
หุบเขา Takase อันงดงามสำหรับนักผจญภัยผู้กล้าหาญ
ในขณะที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่แห่กันไปเที่ยวเส้นทาง Tateyama Kurobe Alpine Route กันอย่างเนืองแน่น ทางตอนใต้ของเส้นทางสุดฮิตนี้มีอีกหนึ่งที่เที่ยวลับนั่นก็คือ “หุบเขา Takase” ด้วยความจริงที่ว่าคุณไม่สามารถเดินทางไปยังหุบเขาแห่งนี้ได้ด้วยรถยนต์ส่วนบุคคล หุบเขาแห่งนี้จึงได้กลายเป็นอัญมณีที่ซ่อนตัวอยู่ แต่สำหรับนักเดินทางตัวยงที่ลงทุนลงแรงเดินทางมาจะได้รับรางวัลเป็นวิวทะเลสาบสุดตระกาลตาที่อยู่เบื้องหลังเขื่อน Takase ถูกปกคลุมด้วยเงาของเทือกเขาแอลป์อันยิ่งใหญ่ เป็นวิวธรรมชาติสุดอลังการมิรู้ลืม สีเขียวชอุ่มของต้นไม้ผลิใหม่ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนมิถุนายน และสีน้ำตาลแดงสุดร้อนแรงของใบไม้ในฤดูใบไม้ร่วงช่วงกลางเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนธันวาคม เป็นภาพวิวที่คุ้มค่าเหนื่อยของคุณอย่างแน่นอน
เขื่อน Takase เป็นเขื่อนที่มีโครงสร้างทางวิศกรรมที่น่าทึ่ง ด้วยความสูง 176 เมตรจึงเป็นเขื่อนที่สูงเป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่นและเป็นเขื่อนหินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย ซึ่งการเดินทางจากเขื่อน Nanakura ที่อยู่ต่ำกว่ามาบริเวณนี้ต้องโดยสารรถพิเศษเท่านั้นไม่สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคลได้
วัด Reisho-ji และความลับของวัด
ตัววัดตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาทางทิศตะวันออกของเมือง Omachi วัด Reisho-ji มีโบสถ์ที่โอ่อ่าและอาคารสวยงามขนาดใหญ่อื่น ๆ อยู่ด้านในเป็นที่อยู่ของพระ ตกแต่งด้วยไม้สลักอันวิจิตรและมุงด้วยหลังคา มีต้น Ohatsuki Ginkgo สูง 17 เมตรเปรียบเสมือนอนุเสาวรีย์ที่บ่งบอกถึงธรรมชาติของเมือง Omachi ได้เป็นอย่างดีรวมถึงสีเหลืองของใบไม้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงด้วย ความยิ่งใหญ่ของวัดคู่ควรกับประวัติศาสตร์ 600 ปีแต่หากเราได้เดินชมอย่างใกล้ชิดแล้วละก็จะได้พบกับประวัติอันน่าทึ่งของวัดแห่งนี้ และนั่นก็คือที่กุฏิของพระมีชั้นลับซ่อนอยู่ บ่งบอกถึงครั้งหนึ่งในอดีตที่วัดพุธถูกบีบให้เปลี่ยนเป็นศาลเจ้านิกายชินโตและพระจำเป็นต้องซ่อนตัวเพื่อหลบหนีโทษตายนั่นเอง รับประกันว่าคุณจะได้พบสิ่งน่าสนใจที่วัดอย่างแน่นอน!
ศาลเจ้ากับกีฬายิงธนูบนหลังม้าโดยเหล่าเด็กน้อย!
ศาลเจ้า Nyakuichi-Oji ตั้งอยู่ใจกลางเมือง Omachi ไม่เพียงแต่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 700 ปีแต่โบสถ์หลักและเจดีย์ 3 ชั้นยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานสำคัญแห่งชาติอีกด้วย ตัวศาลเจ้ามีการจัดงานเทศกาลประจำปี “Yabusame” การแข่งขันยิงธนูบนหลังม้าที่เป็น 1 ใน 3 การแข่งขันระดับประเทศ ที่ศาลเจ้า Nyakuichi-Oji เป็นเพียงที่เดียวที่มีเหล่านักธนูตัวน้อย โดยเด็ก ๆ จะแต่งตัวด้วยชุดโบราณและเดินแห่ไปทั่วเมืองเป็นอีกหนึ่งสีสันของเทศกาลนี้ อย่าลืมกาปฏิทินวันอาทิตย์ที่ 4 กรกฏาคม แล้วเตรียมมาชมเทศกาลกันเถอะ
แกงกะหรี่เขื่อน (Dam Curry)! ที่คุ้มค่าแก่การรอคอย
ลองนึกถึงภาพเขื่อน Kurobe ที่โค้งเว้ากั้นน้ำในทะเลสาบ มีเรือโดยสาร “Garube” ล่องชมความงามตามธรรมชาติพร้อมภาพท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ที่กำลังระบายน้ำจำนวนมากออกมาเป็นสายสีขาวขนาดมหึมา ข้าวแกงกะหรี่เขื่อนมีแรงบันดาลใจมาจากภาพวิวนั้นโดยใช้ข้าวสวยทำเป็นทรงเขื่อนกั้นแกงกะหรี่ที่อยู่อีกฟากไว้โดยมีไก่ทอดวางเปรียบเสมือนเป็นเรือและสลัดที่ทำเป็นท่อระบายน้ำ และนี่ก็คืออาหารจานเด็ดของ Omachi “แกงกะหรี่เขื่อน” หรือ Dam Curry ที่ร้านราเม็งยอดนิยม Buta no Sampo หน้าสถานี Omachi เป็นหนึ่งในร้านที่คุณสามารถหาทานเมนูขึ้นชื่อของพื้นที่นี้ได้ หากคุณเห็นคนต่อคิวอยู่หน้าร้านแล้วละก็อย่าได้ตกใจไป เรารับรองว่าอาหารและการบริการที่เป็นกันเองนั้นคุ้มค่าแก่การรออย่างแน่นอน!
นี่เป็นเพียงไม่กี่ตัวอย่างของสถานที่ท่องเที่ยวและสิ่งน่าสนใจของเมือง Omachi เท่านั้นที่คุณสามารถมาลองสัมผัสได้เมื่อมาเยือนเส้นทาง Alpine Route เพราะฉะนั้นแล้วมาเป็นนักท่องเที่ยวที่แตกต่าง เดินทางค้นหาประสบการณ์ใหม่ที่ใคร ๆ ก็ไม่รู้กันเถอะ!
