ฤดูใบไม้ร่วงเป็นช่วงเวลาที่ดีช่วงนึงของปีสำหรับการมาเยือนประเทศญี่ปุ่น อากาศร้อนชื้นของฤดูร้อนผ่านพ้นไป ร้านสะดวกซื้อต่าง ๆ เริ่มที่จะเอาโอเด้งและซาลาเปาออกมาวางขาย ทัศนียภาพก็สวยไม่ใช่น้อย

สำหรับวิวของฤดูใบไม้ร่วงนั้น เป็นเรื่องยากมากที่จะเอาชนะพื้นที่บนเขาของญี่ปุ่นที่ซึ่งใบไม้หลากสีสันค่อย ๆ ไล่สีลงมาจากยอดเขาจนถึงหุบเขา ไล่เฉดสีเขียว, เหลือง และสีส้มงดงาม

ใน Nagano มีจุดชมวิวอยู่มากมายนับไม่ถ้วน ความจริงแล้วคุณสามารถดูจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่เป็ที่ชื่นชอบ ทั้งยังเดินทางสะดวกได้จาก ที่นี่ แต่หากเคยไปบริเวณเหล่านั้นมาแล้ว คุณอาจจะอยากลองไปที่ใหม่ ๆ และเพลิดเพลินกับวิวของน้ำตกอันสวยงาม

สีสันแห่งฤดูใบไม้ร่วง และออนเซ็นที่หุบเขา Matsukawa

หมู่บ้านเล็ก ๆ ชื่อ Takayama-mura ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังของเมือง Suzaka ซึ่งอยู่ห่างออกมาจากตัวเมือง Nagano นักท่องเที่ยวส่วนมากอาจจะยังไม่ค่อยรู้จักมากนักแต่เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นที่ชื่นชอบการชมวิวของฤดูใบไม้ร่วงและบ่อออนเซ็นที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุ

เป็นจุดกำเนิดของน้ำตกและบ่อออนเซ็นในหลายแห่งในละแวกนี้ วิวของสะพาน Takai ที่ถูกล้อมรอบด้วยสีสันใบไม้แห่งฤดูใบไม้ร่วงเป็นจุดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เช่นเดียวกับน้ำตก Kaminari-daki ที่คุณสามารถชมความสวยงามได้จากหลายทิศทาง (คุณสามารถผ่านด้านหลังของน้ำตกได้โดยไม่เปียกด้วย!)

เมื่อคุณเดินทางผ่านบริเวณบ่อออนเซ็นแห่งแรกของ Yamada Onsen หุบเขาลงและชันขึ้น นี่ก็คือหุบเขา Matsukawaอันเป็นจุดกำเนิดของน้ำตกและบ่อออนเซ็นในหลายแห่งในละแวกนี้ วิวของสะพาน Takai ที่ถูกล้อมรอบด้วยสีสันใบไม้แห่งฤดูใบไม้ร่วงเป็นจุดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เช่นเดียวกับน้ำตก Kaminari-daki ที่คุณสามารถชมความสวยงามได้จากหลายทิศทาง (คุณสามารถผ่านด้านหลังของน้ำตกได้โดยไม่เปียกด้วย!)

มีเรียวกังและบ่อออนเซ็นอยู่หลากหลายใน Yamada Onsenรวมไปถึงบ่อ Oyu อันสวยงามที่ทำมาจากไม้แบบโบราณ ว่ากันว่าน้ำที่ Goshiki Onsen นั้นจะเปลี่ยนสีไปได้ถึง 5 สีตามฤดูกาล ส่วนที่ Shichimi Onsen เปรียบเหมือนค็อกเทลจาก 7 บ่อ ไม่ใช่น้ำออนเซ็นที่ผสมพริก Shichimi ของดีของ Nagano แต่อย่างใด นอกจากนั้นยังมี “บ่อออนเซ็นแบบ Konyoku” (บ่อแช่รวมชายหญิงได้) สำหรับผู้ที่ต้องการแช่น้ำร่วมกันทั้งชายและหญิง

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชม

กลาง - ปลายเดือนตุลาคม

การเดินทาง

สามารถไปที่ Yamada Onsen ได้โดยรถบัสจากสถานี Suzaka โรงอาบน้ำ Yamada Oyu และโรงแรมหลายแห่งอยู่ที่นี่ และมีเส้นทางเดินป่ารอบบริเวณประมาณ 40 นาที หากต้องการไปยังน้ำตก Kaminari-daki ก็นั่งแท็กซี่โดยใช้เวลา 7 นาที

หุบเขา Takase

หุบเขา Takase ตั้งอยู่ด้านหลังของเมือง Omachi ล้อมรอบไปด้วยเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นตอนเหนือ หากเราตามลำน้ำของแม่น้ำ Takase ไปจนถึงต้นน้ำ ตลอดทางจะผ่านเขื่อน 3 เขื่อน เมื่อปีนขึ้นไปบนเขื่อน Takase ซึ่งเป็นเขื่อนท้ายสุดที่เป็นเขื่อนหินสูงที่สุดในญี่ปุ่นด้วยความสูงถึง 176 เมตร หุบเขาจะมีปรากฏตรงหน้า เผยให้เห็นทัศนียภาพที่งดงามของฤดูใบไม้ร่วงอันยิ่งใหญ่ พร้อมด้วยน้ำสีเขียวมรกต และเหล่าภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ

เมื่อเดินออกจากอุโมงค์มา ด้านขวาของเขื่อนจะพาไปสู่สะพานแขวน Fudosawa, จุดตั้งแคมป์ Nigorisawa Campground และเส้นทางที่มุ่งหน้าไปภูเขา Eboshi, ภูเขา Noguchi-Goro และภูเขา Yari หลังข้ามสะพานแล้วใช้เวลาเดินประมาณ 20 นาทีคุณจะได้เพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ของฤดูใบไม้ร่วงได้อย่างเต็มอิ่มมากขึ้นที่น้ำตก Fudosawa

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชม

กลางเดือนตุลาคม

การเดินทาง

สำหรับการไปหุบเขา Takase เราขอแนะนำให้ท่านเดินทางโดยรถยนต์ ขับรถ 60 นาทีจาก Azumino IC ของ Nagano Expressway สู่บ้านพัก Nanakura Sanso จากตรงนั้นคุณสามารถนั่งแท็กซี่ไปที่เขื่อนได้ (ระยะทาง 6 กิโลเมตร ใช้เวลา 15 นาที ราคาประมาณ 2,200 เยน) หรือเดินเท้าระยะทาง 6 กิโลเมตรสู่เขื่อนก็ได้

Nezame no Toko และป่า Akasawa Forest

หุบเขา Kiso เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องคุณภาพไม้ที่ยอดเยี่ยมและช่างไม้ฝีมือดี ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าที่นี่มีโชคเนื่องจากมีป่าที่เขียวขจีและอุดมสมบูรณ์ ฤดูกาลมหัศจรรย์นี้ได้มอบความงามเหนือจริงให้กับเส้นทาง Nakasendo ตลอดจนสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติทั้งหมดของ Kiso

เมือง Agematsu ตั้งอยู่ใจกลางใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ของ Kiso ตัวเมือง Akematsu นั้นเป็นเมืองพักแรมเก่า และเมืองเก่า Narai กับ Kuso Fukushima อันมีชื่อเสียงก็ตั้งอยู่ไม่ไกลทางทิศเหนือ อาคาร สถาปัตยกรรม และบ้านเรือนจะเป็นแบบยุคสมัย Edo และยังมีสถานที่พักโบราณของเหล่าขุนนางที่ยังคงอยู่ ป่าของ Kiso ยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี สวน Akasawa Recreation Forest Park เป็นที่ที่สามารถทำกิจกรรมได้หลากหลาย เช่น การเดินป่า การนั่งรถไฟขนท่อนซุงเก่าเพื่อชมสวนแบบระยะใกล้ ทางใต้ของ Agematsu มี Nezame no Toko ซึ่งเป็นหินรูปร่างแปลกตาเลียบแม่น้ำ Kiso ที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องเล่าพื้นบ้านที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่นชื่อเรื่อง “Urashima Taro”

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชม

ปลายเดือนตุลาคม - ต้นเดือนพฤศจิกายน

การเดินทาง

สถานี Narai, Kiso Fukushima และ Agematsu ต่างเชื่อมถึงกันด้วยรถไฟ JR Chuo Line หากต้องการไปยัง Nezame no Toko สามารถนั่งรถบัสจากสถานี Agematsu หรือสถานี Kiso Fukushima ได้ (ใช้เวลา 5 หรือ 10 นาที ตามลำดับ) หรือจะเดินไปตามเส้นทางสายเก่า Nakasendo จากสถานี Agematsu ใช้เวลาประมาณ 30 นาที หากต้องการไปยัง Akasawa Recreation Forest Park ให้นั่งรถบัสสาย Akasawa (ดูตารางรถบัสได้ที่นี่) จากสถานี Agematsu หรือสถานี Kiso Fukushima (ใช้เวลา 30 หรือ 45 ตามลำดับ)

Shimoguri no Sato

Shimoguri no Sato เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในภูเขาของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นตอนใต้ เนินเขาสูงชันที่นี่เต็มไปด้วยบ้านไร่และทุ่งนา ไล่ลำดับลดหลั่นเป็นขั้นบันไดคดเคี้ยวไปมาแบบฟันปลา ในขณะที่จำนวนประชากรลดลง แต่หญิงสูงวัยที่หมู่บ้านนี้ก็ยังคงทำงานกันอย่างขันแข็งบนภูมิประเทศลาดเอียงราวกับอยู่อีกโลกนึง

พื้นที่รอบหมู่บ้านไม่มีอะไรเลยนอกจากภูเขา จากยอดเขาเหล่าต้นไม้ที่รายเรียงลงมาตามเนินเขาสู่หุบเขาลึกเบื้องล่าง และในฤดูใบไม้ร่วงจะเกิดเป็นทิวทัศน์อันงดงามของใบไม้สีส้มเหลืองตระการตา

วิวที่ดีที่สุดของเมืองนี้อยู่ที่จุดชมวิว Shimoguri-no-Sato ซึ่งใช้เวลาเดินประมาณ 20 นาทีจากลานจอดรถของร้านอาหาร “Hanba-tei”

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชม

กลาง - ปลายเดือนตุลาคม

การเดินทาง

จากเมือง Iida ไปถึงร้านอาหาร Hanba-tei ใช้เวลาขับรถ 80 นาที

Fujimi Panorama Resort

ทิวทัศน์ที่สวยงามอย่างไม่น่าเชื่อ เสมือนได้เห็นภูเขาไฟฟูจิตั้งตระหง่านอยู่บนพรมใบไม้สีเหลืองทองสมดั่งชื่อสถานที่ "Fujimi" (แปลว่า "ชมฟูจิ")

Fujimi Panorama Resort ซึ่งเป็นลานสกีในท้องถิ่น จะเปิดให้บริการกระเช้าลอยฟ้าในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นไปชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่ความสูง 1,700 เมตร คุณสามารถปีนภูเขา Nyukasa (1,955 เมตร) ที่อยู่ใกล้ ๆ ได้โดยใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเพื่อนชมวิวภูเขาทั้ง 22 ลูกซึ่งต่างก็เป็นหนึ่งในภูเขาที่ได้รับเลือกให้เป็นติดอันดับ 100 ภูเขาดังของประเทศญี่ปุ่น (Hyakumeizan)

รีสอรต์แห่งนี้ยังเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของเหล่านักปั่นจักรยานเสือภูเขา อีกด้วย ซึ่งจะเปิดจนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชม

กลางเดือนตุลาคม

การเดินทาง

สถานีที่ใกล้กับ Fujimi Panorama ที่สุดคือสถานี Fujimi ทีใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงโดยการนั่งรถไฟ Limited Express Azusa จากสถานี Shinjuku หรือใช้เวลาประมาณ 50 โดยรถฟาสายเดียวกันจากสถานี Matsumoto มีรถรับส่งฟรีระหว่างสถานี Fujimi และรีสอร์ทวันละ 1 รอบ หรือสามารถนั่งแท็กซี่จากสถานีใช้เวลา 10 นาที

ล่องเรือที่แม่น้ำ Tenryu

แม่น้ำ Tenryuไหลจากพื้นที่ Suwa ไปทางใต้สู่มหาสมุทรแปซิฟิก ตัดผ่านหุบเขา Ina และ Iida ครั้งหนึ่งพลังอันยิ่งใหญ่ของธรรมชาติได้แกะสลักให้เกิดผาหินแนวตั้งของหุบเขา Tenryu ต่อมาได้กลายเป็นเขื่อนเก็บน้ำในศตวรรษที่ 20 ปัจจุบันนี้กระแสน้ำไหลเบาลง แต่คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับการล่องแก่งสไตล์โมเดิร์นได้ หรือล่องเรือแบบดั้งเดิมก็ได้เช่นกัน เมื่อมองขึ้นไปด้านบนจะเห็นสีสันของฤดูใบไม้ร่วงที่สวยงามที่แซมอยู่บนหน้าผาหินของหุบเขา การเดินทางสะดวกสบายเพียงลงที่สถานี Tenryu-kyo (Iida Line) แล้วเดินต่อจากที่นั่น

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชม

กลาง - ปลายเดือนพฤศจิกายน

การเดินทาง

นั่งรถไฟ JR Iida Line ลงสถานี Tenryukyo จากนั้นเดินต่อ 1 นาทีก็ถึงที่แม่น้ำ