ปราสาทมัตสึโมโต้เป็นสถานที่พิเศษ – มีพลังอำนาจกระตุ้นความรู้สึกของผู้คนได้อย่างน่าอัศจรรย์ แค่มองจากภายนอกก็เพียงพอที่จะทำให้คุณรู้สึกทึ่ง ด้วยสีสันที่ตัดกันอย่างโดดเด่นของไม้ประกบผนังและกระเบื้องหลังคาสีดำสนิทกับส่วนหน้าที่เป็นสีขาว แต่งแต้มความสดใสด้วยสะพานข้ามคูเมืองสีแดง เอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมของปราสาทมัตสึโมโต้อยู่ที่ ตัวปราสาทหลักซึ่งแยกออกเป็นหอปราสาทรองด้านหนึ่งและหอชมดาวอยู่อีกด้านหนึ่งของตัวปราสาท นอกจากนี้ ปราสาทยังมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์เนื่องจากคงไว้ด้วยโครงสร้างไม้และงานหินดั้งเดิม และมีตัวปราสาทที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติล้ำค่าประจำชาติของญี่ปุ่น เมื่อรวมเข้ากับฉากหลังของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นที่เห็นอยู่ไกลๆ, สวนสวยสะอาดตา, ประตูด้านนอกและกำแพงปราสาทอันสง่างามแล้ว ปราสาทมัตสึโมโต้จะเป็นปราสาทที่ประทับอยู่ในความทรงจำของคุณไปอีกนาน
ภายในปราสาท
ตัวปราสาทและหอปราสาทรองถูกสร้างขึ้นในตอนปลายยุคสงคราม ตั้งแต่ปีค.ศ.1592 – ค.ศ. 1614 มองจากภายนอก ตัวปราสาทดูเหมือนมีความสูงแค่5ชั้น แต่หากสำรวจภายในของปราสาท คุณจะพบว่าแท้จริงแล้วมีชั้นลับอีกชั้นหนึ่ง ออกแบบมาเพื่อใช้หลบซ่อนทหาร บันไดไม้แคบชันและช่องที่เปิดไว้สำหรับนักธนูและเพื่อโยนหิน แสดงให้เห็นยุทธวิธีที่ปราสาทใช้ป้องกันการรุกรานจากศัตรู ในทางกลับกัน หอชมจันทร์หรือซึคิมิ ยากุระ มีบรรยากาศผ่อนคลายมากกว่า สะท้อนให้เห็นวิถีชีวิตอันละเอียดประณีตของเหล่าซามุไรในช่วงเวลาสันติ หอนี้ถูกสร้างในปี ค.ศ.1635 หลายปีหลังจากความหวาดกลัวการรุกรานของทหารหมดสิ้นไป
ตลอดปีที่ปราสาทมัตสึโมโต้
งานเทศกาลมากมายจัดขึ้นที่ปราสาทมัตสึโมโต้ในช่วงหนึ่งปี เช่น งานเทศกาลโซบะและเบียร์สด รวมถึงการจัดคอนเสิร์ตที่จัดร่วมกับ เทศกาลเซอิจิ โอซาว่า. ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดในการเยี่ยมชมปราสาท เป็นช่วงต้นหรือกลางเดือนเมษายน เมื่อดอกของต้นซากุระกว่า300ต้นบานสะพรั่งพร้อมกัน ตกดึกยังมีการแสดงแสงสีงดงามตระการตา แต่ในช่วงที่มีผู้คนหนาแน่น เช่น กลางเดือนสิงหา (โอบ้ง) คุณอาจจะต้องใช้เวลาต่อคิวยาวเพื่อเข้าปราสาท
ALSA (กลุ่มไกด์ภาษาอังกฤษอาสาสมัคร) จัดทัวร์ชมปราสาทฟรีสำหรับผู้สนใจ ในช่วงระหว่างต้นเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน – เราขอแนะนำให้คุณใช้บริการนี้เพื่อทำให้การท่องเที่ยวของคุณมีความหมายอย่างเต็มที่
ชุมชนรอบปราสาท
เมืองมัตสึโมโต้พัฒนาขึ้นโดยมีปราสาทเป็นศูนย์กลาง จวบจนถึงทุกวันนี้ก็ยังหลงเหลือกลิ่นอายของเมืองปราสาทให้ได้สัมผัสเมื่อคุณเดินชมเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถนนสองสายที่ควรค่าแก่การกล่าวถึง คือ ถนนนาวาเตะ (หรือที่รู้จักกันในนาม “ถนนสายหมอก”) และถนนนากะมาจิซึ่งเรียงรายด้วยอาคารเก็บสินค้าที่มีผนังทำด้วยดิน ถนนทั้งสองสายนี้เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารสไตล์เก๋ไก๋ไม่เหมือนใครให้คุณได้เลือกจับจ่ายอย่างสนุกสนาน
สำหรับผู้สนใจงานศิลปะ สองสถานที่ที่คุณไม่ควรพลาดคือ พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งมัตสึโมโต้ ตั้งอยู่ฝั่งตะวันออกของสถานีมัตสึโมโต้ จัดแสดงผลงานโลกแห่งลายจุด ของ ยาโยอิ คุสะมะ ศิลปินท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงระดับโลก และอีกแห่งหนึ่งคือ พิพิธภัณฑ์ญี่ปุ่น อูกิโยะเอะ ตั้งอยู่ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนมัตสึโมโต้ นอกจากนี้คุณยังสามารถเช่ารถจักรยานขี่สำรวจเมืองได้ง่ายๆจากจุดเช่ารถจักรยานที่มีอยู่รอบเมือง (กรุณาสอบถามรายละเอียดจากศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยว)
การเดินทาง
โดยรถโดยสารสาธารณะ
คุณสามารถเดินอย่างสบายๆใช้เวลาเพียง15นาทีจากสถานีมัตสึโมโต้มายังปราสาทมัตสึโมโต้ โดยเดินออกจากประตูทางออกหลักมาทางถนนด้านซ้ายของร้านแมคโดนัล แล้วตรงไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ350เมตรจนถึงถนนใหญ่ เลี้ยวซ้ายแล้วเดินมุ่งไปทางเหนือ550เมตรจนถึงปราสาท)
โดยทางรถยนต์
ปราสาทอยู่ห่างจากจุดลงทางด่วนมัตสึโมโต้ประมาณ12นาทีจากจุดลงทางด่วนขับไปทางตะวันออก2.6กม. บนถนนสาย158 เลี้ยงซ้ายที่ “T” (สัญญาณที่แยกจูโอ2โจเมะ) แล้วตรงไปอีก400เมตรจะถึงปราสาท มีที่จอดรถอยู่ทางด้านตะวันตกและทางด้านเหนือ
