ฤดูใบไม้ผลิเป็นหนึ่งในฤดูที่สวยงามที่สุดในการไปเที่ยวญี่ปุ่น พอหมดฤดูหนาวอันยาวนานดอกไม้หลากสีก็ผลิบานออกมาจากใต้หิมะและมีเมฆดอกซากุระฟูฟ่องเต็มสวนสาธารณะและเนินเขา
ในจังหวัด Nagano ดอกซากุระจะปกคลุมไปทั่วจังหวัดตั้งแต่ต้นถึงปลายเดือนเมษายนในขณะที่หิมะยังคงปกคลุมอยู่บนภูเขา ถือเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการชมการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล ไม่ว่าจะไปที่สกีรีสอร์ทและสวนสาธารณะรอบ ๆ Hakuba หรือจะไปชมวิวเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นตอนเหนือและดอกซากุระที่ปราสาท Matsumoto ก็ได้เช่นกัน
แม้ว่าจะยังไม่เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวต่างประเทศ แต่หุบเขา Ina ก็เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการเพลิดเพลินกับฤดูใบไม้ผลิและหิมะของจังหวัด Nagano ที่ซ่อนตัวอยู่ระหว่างเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นตอนกลางและตอนใต้ของญี่ปุ่นมีทิวทัศน์ของภูเขาอันงดงาม, จุดชมซากุระบานสะพรั่งและกิจกรรมฤดูใบไม้ผลิมากมาย ซึ่งสามารถขึ้นโรปเวย์ไปยังความสูงที่น่าทึ่งและเพลิดเพลินกับการเดินลุยหิมะในฤดูใบไม้ผลิ อีกทั้งยังสามารถเยี่ยมชมจุดชมดอกซากุระที่สวยงามในวัดและปราสาทโบราณและเก็บสตรอว์เบอร์รี่สด ๆ ในโรงเรือนอันอบอุ่นได้ที่นี่
จากนี้ไปคือทริปแบบ 2 วันที่หุบเขา Ina
2 วันในหุบเขา Ina: วันที่ 1
หุบเขา Ina ตั้งอยู่ระหว่างเมือง Matsumoto และ Nagoya สามารถเดินทางได้ด้วยรถไฟ JR Iida Line ซึ่งในการเริ่มต้นการเดินทางนั้นให้ขึ้นรถไฟไปยังสถานี Komagane แล้วเปลี่ยนเป็นรถบัส Komagatake Ropeway ที่มุ่งหน้าไปยังสถานี Shirabidaira แล้วลงรถที่นี่เพื่อแวะที่แรกของวัน: Senjojiki Cirque
Senjojiki Cirque และ Komagatake Ropeway
Komagatake Ropeway เป็นโรปเวย์ภูเขาแห่งแรกที่สร้างขึ้นในญี่ปุ่น ด้วยความยาว 2,333 เมตรและเดินทางขึ้นไปที่ระดับความสูง 2,612 เมตร นำผู้มาเยือนไปยัง Senjojiki Cirque ซึ่งเป็นธรรมชาติทางธรณีวิทยาที่งดงามในความสูงของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นตอนกลาง
ชื่อของ Senjojiki หมายถึงขนาดที่กว้างใหญ่ ซึ่งที่นี่ใหญ่จนปูเสื่อ Tatami ได้ถึง 1,000 ผืน (ยาวประมาณ 1.8 กิโลเมตร) ซึ่งที่นี่เกิดขึ้นเมื่อหลายพันปีก่อนด้วยปรากฏการณ์ของน้ำแข็งที่ทำให้เกิดเป็นเวิ้งคล้ายอัฒจันทร์ธรรมชาติที่เราเห็นในปัจจุบัน และรอบ ๆ ยอดเขาหินที่เปลือยเปล่ายื่นออกมาจากแนวสันเขาเหมือนจุดมงกุฎ
ที่นี่เปิดให้เข้าชมได้ตลอดทั้งปีซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลที่ชัดเจนเป็นอย่างมากที่ในฤดูร้อนบนหญ้าเขียวขจีจะถูกแต่งแต้มด้วยพันธ์ุดอกไม้อัลไพน์ที่หายาก ส่วนในฤดูใบไม้ร่วงจะเห็นเป็นราวกับลุกโชนไปด้วยสีแดงเพลิง, สีเหลืองและส้ม พอเข้าฤดูหนาวจะหยุดนิ่งตามกาลเวลาแม้แต่อากาศก็ยังเปล่งประกายด้วยอนุภาคเยือกแข็งที่เรียกว่า 'ฝุ่นเพชร' (diamond dust) และช่วงฤดูใบไม้ผลิสามารถเพลิดเพลินกับหิมะของฤดูหนาวและความอบอุ่นของดวงอาทิตย์ซึ่งเป็นเวลาที่เหมาะสำหรับการทำกิจกรรมเดินลุยหิมะภายใต้ท้องฟ้าสีฟ้าสดใส
สามารถเช่ารองเท้าสำหรับเดินบนหิมะและเพลิดเพลินกับการเดินลุยหิมะได้ ซึ่งเมื่อเข้าใกล้ตรงเวิ้งจะสามารถชื่นชมรูปลักษณ์และขนาดอันงดงามของมันได้มากขึ้น
หลังจากนั้นแวะจิบเครื่องดื่มที่ 2612 Café ของ Senjojiki ซึ่งมีทัศนียภาพอันงดงามของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นตอนใต้ก่อนที่จะมุ่งหน้ากลับลงไปที่ภูเขาเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน
รายละเอียด
ราคา
โรปเวย์ (ไป - กลับ)*: ผู้ใหญ่: 2,490 เยน / เด็ก: 1,240 เยน
ค่ารถบัสไป - กลับ: 2,060 เยน (1,640 เยนหากขึ้นรถจาก Suganodai Bus Center)
เช่ารองเท้า Snowshoe สำหรับเดินบนหิมะ: 1,000 เยน
การเดินทาง
จากสถานี Komagane ขึ้นรถบัส Komagatake Ropeway ไปยังสถานี Shirabidaira จากนั้นขึ้นโรปเวย์ไปบนยอดเขา
Sauce Katsudon ที่ร้าน Meijitei
ญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพและอาหารเบาสบายท้อง แต่ก็มีอีกมุมหนึ่งที่มีอาหารที่ทำแบบง่าย ๆ ที่ทำให้อิ่มท้องได้ด้วยเช่นกัน อย่างในหุบเขา Ina มีเมนู Sauce Katsudon เป็นอาหารเฉพาะของท้องถิ่น ซึ่งเป็นข้าวหน้าหมูชุบแป้งทอดราดซอสหวานเสิร์ฟพร้อมกะหล่ำปลีสด
จะมีร้าน Meijitei ตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกห่างจาก Suganodai Bus Center โดยใช้เวลาเดินเพียงไม่กี่นาทีเป็นร้านอาหาร Sauce Katsudon ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งซึ่งมีซอสสูตรพิเศษเป็นของทางร้านเองและยังเป็นโรงงานผลิตซอสอยู่ที่ร้านด้วย อีกทั้งยังได้เห็นตอนที่เขากำลังหมักซอสกันอยู่ (แล้วก็ซื้อกลับบ้านได้!)
ขอแนะนำให้กินเมนู Sauce Katsudon แต่ที่ร้านยังมีเมนูอื่น ๆ อีกมากมายและหลายขนาด มีขนาดที่ใหญ่เบิ้มให้เลือกอีกด้วย และยังสามารถเลือกสั่งข้าวหน้าปลา Shinshu Salmon ของจังหวัด Nagano, ลิ้นวัวหมักมิโซะหรือแม้แต่ Basashi (เนื้อม้าดิบ) ได้ที่ร้านนี้
รายละเอียด
ราคา
Sauce Katsudon: 1,340 เยน
วันและเวลาทำการ
เมษายน - ตุลาคม
วันธรรมดา: 11.00 - 19.00 น.
วันหยุดสุดสัปดาห์: 9.30 - 19.00 น.
พฤศจิกายน - มีนาคม
วันธรรมดา: 11.00 - 14.30 น.
วันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุด: 11.00 - 15.00 น.
การเดินทาง
เดินเพียง 5 นาทีจากสถานีรถบัส Suganodai Bus Terminal
สำรวจโรงแรมที่พัก
มีที่พักขนาดเล็กและใหญ่หลายแห่งอยู่ที่รอบฐานของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นตอนกลางซึ่งสามารถเดินทางไปยัง Suganodai Bus Center ได้โดยสะดวก ซึ่งพื้นที่ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ Hayataro Onsen
เรามีโอกาสไปพักที่ Futari Shizuka โรงแรมสไตล์ญี่ปุ่นที่หรูหรามีบ่ออาบออนเซ็นกลางแจ้งเพียงแค่ขึ้นเขาจากป้ายรถบัส
โรงแรมแห่งนี้ผสมผสานการออกแบบสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมและสมัยใหม่เข้าด้วยกันอย่างลงตัวโดยมีการใส่ใจในทุกรายละเอียด ซึ่งมีม่านกระดาษและโคมไฟในรูปทรงของประตู Shoji แบบดั้งเดิมทั่วทั้งโรงแรมและมีช่อดอกไม้ที่จัดแบบ Ikebana หลากสีอยู่ทั่วทุกมุม อีกทังยังมีแผ่นกระจกสูงจากพื้นจรดเพดานเผยให้เห็นสวนญี่ปุ่นขนาดเล็กในล็อบบี้ของโรงแรมอีกด้วย
มีทั้งห้องสไตล์ญี่ปุ่นและสไตล์ตะวันตกที่สามารถรองรับได้ตั้งแต่คู่รัก, ครอบครัวเล็กหรือแม้แต่กลุ่มใหญ่ ซึ่งมีตั้งแต่ห้องพักที่หันหน้าไปทางเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นตอนใต้ไปจนถึงห้องที่มีอ่างออนเซ็นส่วนตัว, ห้อง Futari Shizuka มีทิวทัศน์และสิ่งอำนวยความสะดวกสบายที่เป็นเอกลักษณ์ช่วยให้ผู้ที่มาพักเพลิดเพลินกับการเข้าพักได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังมีอาหารเลิศรส อย่างอาหาร Kaiseki สไตล์ญี่ปุ่นในช่วงเย็นและบุฟเฟ่ต์หรืออาหารเช้าสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมในตอนเช้า
ไม่ว่าคุณจะเลือกพักที่โรงแรมใดในพื้นที่ Hayataro Onsen ที่พักทั้งหมดนั้นก็อยู่ในระยะที่สามารถเดินไปถึง Suganodai Bus Center, วัด Kozenji และโรงกลั่นวิสกี้ Mars ได้เพียงข้ามแม่น้ำเช่นกัน
ดอกซากุระระย้าของวัด Kozenji
หลังอาหารค่ำเดินจากโรงแรมที่พักไปยังวัด Kozenji เพื่อชมดอกซากุระประดับไฟ
ในช่วงกลางเดือนถึงปลายเดือนเมษายน วัด Kozenji จะมีการประดับไฟยามค่ำคืนเพื่อให้ความสว่างแก่ต้นดอกซากุระระย้า ไฟสปอตไลท์ส่องแสงต้นไม้อวดกลีบในโทนสีขาว, ชมพู และสีลาเวนเดอร์ และมีเทียนเรียงรายตามทางเดินรอบวัดซึ่งบริเวณนี้สวยงามเป็นพิเศษในช่วงเย็นเมื่อห้องโถงใหญ่และเจดีย์สามชั้นอาบแสงเทียนอันอบอุ่น
ที่นี่จะพบหลุมศพของ Hayataro สุนัขที่อาศัยอยู่ในวัด Kozenji เมื่อ 700 ปีก่อน ว่ากันว่าในช่วงชีวิตของ Hayataro ได้ขับไล่วิญญาณลิงบาบูนชั่วร้ายที่เข้ามาคุกคามเมืองใน Shizuoka
รายละเอียด
ราคา
ฟรี
เวลาทำการ
เปิดไฟในเวลา 18.30 - 21.00 น.
การเดินทาง
จากสถานี Komagane ขึ้นรถบัส Komagatake Ropeway และลงที่ป้าย Kiriishi Koen Shita (ระหว่างป้าย Nyotai Iriguchi และ Suganodai Bus Center) หรือเดิน 25 นาทีจากป้ายรถบัส Suganodai Bus Center
วันที่ 2: ชิมวิสกี้และเก็บผลไม้
ในวันที่ 2 เพลิดเพลินไปกับสุราท้องถิ่นของหุบขา Ina และไปเก็บผลไม้ที่สวน Miharashi Farm ซึ่งเป็นทางที่หลังจากเที่ยวชมเสร็จสามารถมุ่งหน้าขึ้นไปทางเหนือเพื่อไปยัง Matsumoto หรือจะทางลงใต้เพื่อไปยัง Nagoya สำหรับจุดุม่งหมายต่อไปของการเดินทางก็ได้
โรงกลั่นวิสกี้ Mars
ออกจากโรงแรมหลังอาหารเช้ามุ่งหน้าไปอีกด้านหนึ่งของแม่น้ำ Otagiri และเยี่ยมชมโรงกลั่นวิสกี้ Mars ซึ่งอยู่ห่างจา Suganodai Bus Center โดยใช้เวลาเดินเพียง 10 นาที
โรงกลั่นแห่งนี้เปิดให้บริการในปี 1985 โดยสร้างขึ้นในสถานที่ที่เหมาะสำหรับการทำวิสกี้เนื่องจากอุณหภูมิที่เย็นสบายและอุดมไปด้วยน้ำพุจากเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นตอนกลาง ซึ่งโรงกลั่นผลิตวิสกี้ญี่ปุ่นหลายชนิดตั้งแต่ Blended single malts ไปจนถึง Single cask ภายใต้ฉลาก Mars Whisky
การเยี่ยมชมโรงกลั่นวิสกี้นั้นไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ และสามารถเดินเข้าชมได้ตามอัธยาศัย ซึ่งมีป้ายเป็นภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษอธิบายขั้นตอนการทำวิสกี้ตั้งแต่การบดจนถึงการกลั่นและถ้ามาในตอนเช้าจะเห็นเหล่าผู้เชี่ยวชาญอยู่ที่ทำงานที่นี่ด้วย ขั้นตอนการกลั่นเป็นสิ่งที่น่าสนใจที่สุดเนื่องจากสามารถเห็นกระบวนการบดและเดือดอยู่ภายในเครื่องกลั่นทรงคอห่านที่ทำด้วยทองแดง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านวิสกี้คอยเฝ้าดูความคืบหน้าอยู่ตลอดเวลาเพื่อตรวจสอบกลิ่นและรสชาติของผลิตภัณฑ์กลั่นเป็นครั้งคราว
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแอลกอฮอล์และสุราของ Nagano
นอกจากนี้ยังมีห้องชิมวิสกี้ให้ชิมฟรีหลายรายการ อีกทั้งยังสามารถลองชิมรายการที่มีราคาแพงกว่าได้โดยมีค่าธรรมเนียมเล็กน้อยรวมทั้งดื่มเบียร์บางชนิดที่หมักที่นี่ได้อีกด้วย
โรงกลั่นอยู่ระหว่างการปรับปรุงซึ่งจะแล้วเสร็จประมาณเดือนกรกฎาคมของปี 2020 จะมีหน้าร้านใหม่เอี่ยมและบาร์ที่คุณสามารถดื่มวิสกี้และเบียร์มากมายได้ตามอัธยาศัยเพียงข้ามแม่น้ำจาก Hayataro Onsen ที่นี่จะเป็นสถานที่ที่ดีเยี่ยมสำหรับการพักผ่อนหลังจากสำรวจ Senjojiki Cirque และ Komagane มาทั้งวัน
รายละเอียด
ราคา
ทัวร์โรงกลั่นไม่มีค่าใช้จ่าย
เวลาทำการ
9.00 - 16.00 น.
การเดินทาง
เดิน 10 นาทีจาก Suganodai Bus Center
สวน Miharashi farm ตั้งอยู่ในเมือง Ina เป็นสวนท่องเที่ยวที่เปิดดำเนินการมาแล้ว 20 ปี ที่นี่มีให้เก็บสตรอว์เบอร์รี่, บลูเบอร์รี่, องุ่น และแอปเปิล (นอกจากนี้ยังสามารถเก็บข้าวโพดและหน่อไม้ฝรั่งได้) แล้วก็มีห้องเรียนทำอาหาร, ห้องอาหารบุฟเฟ่ต์, บ่อออนเซ็นและกิจกรรมอื่น ๆ อีกด้วย ซึ่งเป็นสามารถใช้เวลาทั้งวันในการเก็บผล, ไม้เรียนทำอาหารและเพลิดเพลินกับกิจกรรมกลางแจ้งได้อย่างง่ายดาย
ในการเดินทางไปยัง Miharashi Farm จากโรงกลั่นวิสกี้ Mars คือขึ้นรถบัสจาก Suganodai Bus Center กลับไปที่สถานี Komagane ก่อน จากนั้นขึ้นรถไฟมุ่งหน้าไปทางเหนือไปยังสถานี Inashi และขึ้นรถบัส Miharashi Farm ไปยัง Miharashi Farm
เก็บสตรอว์เบอร์รี่
ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายนที่สวน Miharashi Farm มีบริการให้เก็บสตรอว์เบอร์รี่ได้ในโรงเรือน ที่ภายในสวนมีโรงเรือนขนาดใหญ่ทั้งหมด 17 หลังซึ่งแต่ละหลังจะเต็มไปด้วยสตรอว์เบอร์รี่สีแดงสดเป็นแถวเป็นแนว สามารถเลือกสตรอว์เบอร์รี่ได้ 3 สายพันธุ์ที่นี่: Beni Hoppe, Akihime และ Nyoho
รสชาติแต่ละสายพันธุ์มีความแตกต่างกันเล็กน้อย ซึ่ง Nyoho และ Beni Hoppe มีรสชาติที่สมดุลมากทั้งหวานและเปรี้ยวในขณะที่ Akihime ได้พัฒนาให้หวานและฉ่ำที่สุด เนื่องจากกิจกรรมเก็บสตรอว์เบอร์รี่ของสวน Miharashi Farm ไม่จำกัดเวลาจึงสามารถใช้เวลาได้มากเท่าที่ตัวเองต้องการเพื่อลองทั้งหมดและค้นหาสิ่งสายพันธุ์ที่ชื่นชอบ!
เคล็ดลับ: เนื่องจากคนส่วนใหญ่ไม่ได้เดินไปด้านหลังของโรงเรือน ซึ่งตรงนั้นมักจะมีสตรอว์เบอร์รี่ที่สุกและอร่อยที่สุดไว้ให้เก็บอยู่ด้วย
รายละเอียด
ราคา
มกราคม: ผู้ใหญ่: 1,800 เยน / เด็ก: 1,100 เยน
กุมภาพันธ์ถึงมีนาคม: ผู้ใหญ่: 1,600 เยน / เด็ก: 1,100 เยน
เมษายนถึง 10 พฤษภาคม: ผู้ใหญ่: 1,400 เยน / เด็ก: 900 เยน
11 พฤษภาคมถึงมิถุนายน: ผู้ใหญ่: 1,100 เยน / เด็ก: 900 เยน
วันทำการ
2 มกราคม - 2 มิถุนายน
เวลา
9.00 - 16.00 น.
การจอง
ต้องจองล่วงหน้า Email miharasi@dia.janis.or.jp
ปั่นจักรยานเสือภูเขาที่ Miharashi
สวน Miharashi Farm กำลังเปิดเส้นทางปั่นจักรยานเสือภูเขาที่ออกแบบโดยคุณ Miyasaka นักออกแบบเส้นทาง MTB ในท้องถิ่นที่มีความสามารถ
เส้นทางนี้ได้ออกแบบมาให้สำหรับผู้เริ่มต้นปั่นจักรยานเสือภูเขาและเส้นทางนี้ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงซึ่งรวมทั้งเวลาเตรียมตัว, การปีนขึ้นเขาสั้น ๆ และกิจกรรมดาวน์ฮิลล์หลักด้วย เส้นทางนี้ทำจากดินที่อัดแน่นเป็นแนวตลิ่งตามไหล่เขาตัดผ่านป่าทึบ Hinoki ที่ทางเดินถูกปกคลุมไปด้วยร่มเงาและมีกลิ่นหอมของไม้
ไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ในการขี่เทรลไปด้วยเนื่องจากมีจักรยานเสือภูเขา Kona และหมวกกันน็อคให้เช่า
รายละเอียด
รายละเอียด
การใช้เส้นทาง
1 วัน: ผู้ใหญ่: 1,500 เยน / เด็ก: 1,000 เยน
1 ชั่วโมง: ผู้ใหญ่: 750 เยน / เด็ก: 500 เยน
เช่าจักรยาน
1 ชั่วโมง: ผู้ใหญ่: 1,500 เยน / เด็ก: 1,000 เยน
3 ชั่วโมง: ผู้ใหญ่: 3,000 เยน / เด็ก: 2,000 เยน
1 วัน: ผู้ใหญ่: 4,000 เยน / เด็ก: 3,000 เยน
เวลาทำการ
9.00 - 16.00 น. (วันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์เท่านั้น)
Gohei Mochi เป็นขนมยอดนิยมในทางใต้ของจังหวัด Nagano
เป็นข้าวที่ถูกโขลกให้มีความใกล้เคียงโมจิจากนั้นย่างและทาด้วยซอสรสเค็มและหวาน (โดยปกติจะใส่มิโซะและถั่ว) ซึ่งรูปร่างของขนมเป็นวงกลมหรือเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขึ้นอยู่กับแต่ละคนที่ทำ
วีธีการทำไม่ได้ยาก แต่เป็นกิจกรรมที่ดีในการใช้เวลาว่างและเพลิดเพลินกับขนมอร่อย ๆ ผู้สอนจะสอนวิธีการทำแต่ละขั้นตอนตั้งแต่การโขลกข้าวและการจัดรูปทรงไปจนถึงการปรุงอาหารและการทาซอส
สวน Miharashi Farm ยังมีชั้นเรียนทำอาหารอื่น ๆ เช่นการทำแยมและโซบะด้วย
รายละเอียด
ราคา
650 เยนต่อคน
เวลาทำการ
การสอนเริ่มตั้งแต่เวลา 11.30 น. หรือ 12.30 น.
การจอง
ต้องจองล่วงหน้า Email miharasi@dia.janis.or.jp.
ไปที่ไหนต่อดี?
เมื่อได้สัมผัสหุบเขา Ina จนเต็มที่แล้วสามารถมุ่งหน้าไปยังปราสาท Matsumoto, อุทยานแห่งชาติ Kamickochi หรือ Takayama และขึ้นไปทางตอนเหนือไปเรื่อย ๆ หรือมุ่งหน้าลงใต้ไปยัง Nagoya, Osaka และ Kyoto หรือสถานที่อื่น ๆ ที่ไหนในญี่ปุ่นต่อก็ได้! หลังจากสำรวจเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นตอนกลางที่เต็มไปด้วยหิมะและดอกซากุระแล้วเสร็จคุณจะไปที่ไหนต่อ?
หากต้องการสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับหุบเขา Ina และสถานที่ท่องเที่ยวก็สามารถพิมพ์ถามในช่องความคิดเห็นที่อยู่ด้านล่าง!