ในจังหวัดที่ไม่ติดทะเลแห่งนี้นั้น มี Suwa ที่เป็นพื้นที่อันอุดมสมบูรณ์ด้วยแหล่งน้ำ พื้นผิวของทะเลสาบ Suwa มีทิวทัศน์ที่สวยงาม สะท้อนแสงของภูเขาและท้องฟ้าโดยรอบ ออนเซ็นผุดขึ้นจากบริเวณ Kami และ Shimosuwa ได้หล่อเลี้ยงโรงที่อาบน้ำสาธารณะมากกว่า 150 แห่งในพื้นที่ และน้ำจืดจากที่ราบสูงช่วยส่งเสริมให้ไวน์ข้าวของ Suwa ได้รับรางวัลมากมาย

ผู้มาเยี่ยมชมพื้นที่นี้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากเทศกาล Onbashira เมื่อปี 2016 ดังนั้นมาก็ลองมาดูสถานที่ท่องเที่ยวของ Suwa ให้ละเอียดยิ่งขึ้น

ออนเซ็นของ Suwa

พื้นที่ Suwa มีปริมาณน้ำออนเซ็นผุดออกมามากที่สุด (26,000 ลิตรต่อนาที) เป็นอันดับหนึ่งในจังหวัด Nagano โรงแรมและสถานที่สำหรับแช่ออนเซ็นตั้งเรียงรายอยู่ริมชายฝั่งทะเลสาบ หลายแห่งมีทัศนียภาพของทะเลสาบและภูเขาที่อยู่รอบ ๆ ให้ชม บ่อออนเซ็นเท้ารอบเมืองจะช่วยให้คุณได้หยุดพักและผ่อนคลายความเมื่อยล้าได้ แม้แต่ในสถานี Kamisuwa ก็มีบ่อออนเซ็นเท้าให้ใช้บริการเช่นกัน!

หนึ่งในออนเซ็นที่มีชื่อเสียงที่สุดของ Kamisuwa เรียกว่า Katakurakan(1) เป็นอาคารอิฐสไตล์ชนบทใกล้สถานี Kamisuwa ที่นี่มีบ่อออนเซ็นขนาดใหญ่ พรมก้อนกรวดที่ก้นอ่างช่วยนวดเท้าขณะเดิน  สายน้ำให้ความรู้สึกผ่อนคลาย และสถาปัตยกรรมแบบ Romanesque ก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจมากสำหรับโรงอาบน้ำแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอในภาพยนตร์ตลกยอดนิยมของญี่ปุ่นเรื่อง Thermae Romae ให้ชมด้วย

มีแผนที่ภาษาอังกฤษที่แสดงอาคารสำหรับการแช่ออนเซ็นได้ในระหว่างวันที่ตั้งอยู่รอบ ๆ สถานี Kamisuwa และ Shimosuwa และหากคุณได้มาพักอยู่ในพื้นที่บริเวณนี้ ที่โรงแรมหรือเรียวกังที่คุณพักก็มักจะมีบ่อออนเซ็นของตัวเองเช่นกัน!

โรงผลิตสาเก Go-Kura

Suwa เป็นที่ตั้งของโรงผลิตสาเกจำนวนมากที่เปิดดำเนินการมานานหลายร้อยปี ทางใต้ของสถานี Kamisuwa มีกลุ่มโรงผลิตสาเกทั้ง  5 แห่งเรียกว่า Go-Kura(2) ซึ่งเป็นแนวถนน Koshu kaido ในอดีต โดยโรงผลิตสาเกทั้ง 5 ได้แก่ Maihime, Reijin, Honkin, Yokobue และ Masumi แต่ละแห่งมีบริการชิมเหล้าสาเก (และชิมเบียร์ที่ Reijin) ดังนั้นคุณสามารถเยี่ยมชมทุกที่และชื่นชมความแตกต่างของโรงสาเกแต่ละแห่งได้

หลายคนคุ้นเคยกับสาเกร้อน แต่อาจจะยังไม่มีโอกาสได้ลิ้มลองสาเกเย็น เช่น Junmai, Ginjo และ Daiginjo มาก่อน ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ สาเกเย็นยอดนิยมอีกชนิดหนึ่งคือ Namazake ซึ่งเป็นเหล้าที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อจึงมีกลิ่นหอมอย่างยิ่ง คุณอาจประหลาดใจกับกลิ่นและรสชาติของผลไม้ที่ผลิตจากส่วนผสมง่าย ๆ เช่น ข้าว ยีสต์และน้ำ!

ขับรถท่องไปบนพื้นที่สูง

ทางทิศตะวันออกของ Suwa คือ Kirigamine Kogen ซึ่งเป็นพื้นที่สูงประกอบกันขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางที่เรียกว่า Venus Line (3) นักท่องเที่ยวสามารถชมทุ่งดอกไม้บนพื้นที่สูงในช่วงฤดูอันเขียวชอุ่ม พร้อมกับชมวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจของเมฆและยังมองไปเห็นถึงภูเขาไฟ Fuji ได้จากระยะไกลด้วย ในฤดูใบไม้ร่วงจะแปรเปลี่ยนเป็นทุ่งหญ้าสีเงินและสีสันสดใสของใบไม้เปลี่ยนสี ในขณะที่ฤดูหนาวจะถูกปกคลุมด้วยพรมหิมะสีขาว และอาจได้ชม ปรากฏการณ์ที่เรียกว่าเกล็ดหิมะอัญมณี หรือ Diamond Dust ซึ่งก็คือผลึกหิมะละเอียดอ่อนปลิวระยิบระยับทั่วท้องฟ้าอย่างงดงาม

การขับรถข้ามเส้นทาง Venus Line เป็นสิ่งที่คนในพื้นที่รัก ฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วงเป็นช่วงเวลายอดนิยมในการขับรถเที่ยวชม (ตั้งแต่มิ.ย. - ปลายต.ค.) ดังนั้นควรออกเดินทางให้เร็วหากคุณต้องการไปเที่ยวในช่วงสุดสัปดาห์ และอย่าลืมว่าเส้นทาง Venus Line จะปิดตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน และจะเปิดอีกครั้งในปลายเดือนเมษายน

ดอกไม้ไฟ

ในฤดูร้อน Suwa จะมีชีวิตชีวาด้วยดอกไม้ไฟที่สว่างไสว ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม จะเห็นดอกไม้ไฟที่พุ่งขึ้นเหนือทะเลสาบ Suwa ทุกคืน ในช่วงกลางเดือนสิงหาคม Suwa เป็นเจ้าภาพจัดงานเทศกาลดอกไม้ไฟ และในช่วงต้นเดือนกันยายนจะมีการจัดงานเทศกาลดอกไม้ไฟทดลองขนาดเล็ก

ระหว่างเทศกาลดอกไม้ไฟเดือนสิงหาคม ดอกไม้ไฟกว่า 40,000 นัดจะถูกปล่อยขึ้นสู่ท้องฟ้ากินเวลาหลายชั่วโมง ดอกไม้ไฟทุกรูปทรงและทุกขนาดได้ร่ายรำไปทั่วทะเลสาบ Suwa และสะกดจิตผู้ชมนับแสน ปีที่แล้วมีผู้คนกว่า 500,000 คนมาจากทั่วญี่ปุ่นเพื่อชมการแสดงอันทรงพลังนี้ 

ในเดือนกันยายนเทศกาลดอกไม้ไฟทดลองได้เปิดโอกาสให้ศิลปินที่ได้รับเลือกได้ลองออกแบบดอกไม้ไฟใหม่ ๆ และเป็นต้นฉบับของตัวเอง คุณอาจเห็นแมงกะพรุน เห็ดหรือแม้แต่ตัวการ์ตูนยอดนิยมบนท้องฟ้า งานนี้มีขนาดประมาณครึ่งหนึ่งของเทศกาล Suwa ในเดือนสิงหาคม แต่ยังมีดอกไม้ไฟเกือบ 20,000 นัดและมีผู้ชมมากกว่า 250,000 คน! 

Shimosuwa

เมือง Shimosuwa เคยเป็นจุดแวะพักที่สำคัญตามเส้นทาง Nakasendo ที่เชื่อมระหว่าง Kyoto และ Edo (Tokyo ในปัจจุบัน) เอาไว้ สถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมหลายชิ้นยังคงอยู่และศาลเจ้าย่อยทั้ง 4 แห่งของศาลเจ้า Suwa Taisha ทั้ง 2 ก็อยู่ที่นี่เช่นกัน

ปัจจุบันศาลเจ้า Suwa Taisha เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะแหล่งพลังงานของเทศกาล Onbashira และในขณะที่ยังไม่สามารถชมเทศกาลนี้ได้จนกว่าจะถึงปี 2022 คุณก็สามารถชมเสาที่เพิ่งลงปักหลักใหม่ หรือไปเยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้ Onbashira (Onbashira-kan Yoisa) ที่ตั้งอยู่ด้านนอกขอกของศาล Harumiya เพื่อชมภาพที่บันทุกไว้และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในงานเทศกาล

ตามเส้นทาง Nakasendo มีที่พัก Honjin(4) แห่ง Shimosuwa เป็นโรงแรมหลักของ Shimosuwa ที่ขุนนางหลายคน รวมถึงเจ้าหญิง Kazunomiya ได้มาเข้าพัก สามารถชมห้องที่เจ้าหญิงพักที่ยังคงสภาพไม่ต่างจากเมื่อหลายร้อยปีก่อนได้ ที่ Kikyoya ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เคียงให้บริการอาหารพิเศษที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Kazunomiya โดยเนรมิตรอาหารที่เจ้าหญิงได้ทานขึ้นมาใหม่ (ในปริมาณที่มากขึ้น) ซึ่งเป็นอาหารที่ทานในระหว่างการเดินทางจาก Kyoto ไปยัง Edo

ในบรรดาอาคารและถนนสมัย Edo ของ Shimosuwa ยังมีพิพิธภัณฑ์นาฬิกา Gishodo(5) และพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี Suwa-no-Ne Orgol(6) Suwa เป็นพื้นที่ที่มีชื่อเสียงในด้านการประดิษฐ์เครื่องจักรที่มีความแม่นยำ และยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของ Epson พิพิธภัณฑ์เหล่านี้นำเสนอประวัติความเป็นมา รวมถึงกลไกของนาฬิกาและกล่องดนตรี นอกจากนี้ยังมีเวิร์คช็อปที่คุณสามารถทำกิจกรรมและเก็บกลับบ้านเป็นของที่ระลึกได้

ข้อมูลเพิ่มเติม

ถนนที่เงียบสงบของ Nakasendo ในอดีต สายน้ำแห่งการบำบัดจากออนเซ็นของ Suwa และทิวทัศน์ริมทะเลสาบระยิบระยับจะทำให้ผ่อนคลายเต็มที่ในวันหยุดฤดูร้อน แต่น่าเสียดายที่คุณไม่สามารถลงไปว่ายน้ำในทะเลสาบได้

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพื้นที่ Suwa โปรดดูที่เว็บไซต์ภาษาอังกฤษ!

(กลับไปที่ข้อความ)

(1) Katakurakan

เวลาทำการ: 10:00 - 21:00 น.
ราคา: ผู้ใหญ่ 650 เยน / เด็ก 450 เยน
วันหยุด: ปิดทุกวันอังคารที่ 2 และ 4 ของเดือน
การเดินทาง: เดิน 8 นาทีจากสถานี Kamisuwa

(กลับไปที่บทความ)

(2) โรงผลิตสาเก Go-Kura

โรงผลิตสาเก Maihime, Reijin, Honkin, Yokobue และ Masumi อยู่ไม่ไกลจากสถานี Kamisuwa ตามถนนหมายเลข 20 สามารถชิมสาเกฟรีที่โรงผลิตสาเกทั้ง 4 แห่ง แต่ที่โรง Masumi จะมีค่าใช้จ่าย 320 เยนต่อคน สามารถลิ้มลองเบียร์ได้ที่โรง Reijin ในราคาแก้วละ 100 เยน ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Go-Kura (ภาษาญี่ปุ่น)

เวลาทำการ: 9:00 - 17:00 น. / 18:00 น. (ขึ้นอยู่กับแต่ละโรง)
ราคา: ฟรี (ยกเว้น Masumi 320 เยน)
วันหยุด: โรงผลิตสาเก Honkin ปิดทุกวันอาทิตย์
การเดินทาง: เดินไม่ไกลจากสถานี Kamisuwa ไปตามถนนหมายเลข 20 โปรดดูลิงค์ด้านบนสำหรับตำแหน่งที่แน่นอน

(กลับไปที่บทความ)

(3) เส้นทาง Venus Line

ทางเหนือ: จาก Suwa IC เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนหมายเลข 20 ตรงไปเรื่อย ๆ และเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนหมายเลข 152 ที่ Arai (新井) เมื่อถึงแยก Gozaishi Jinja (御座石神社) ให้เลี้ยวซ้าย แค่นี้ก็อยู่ในเส้นทาง Venus Line แล้ว!

ทางใต้: เส้นทางเริ่มต้นจาก Utsukushigahara Kogen ซึ่งสามารถเดินทางไปได้จากเมือง Matsumoto หรือ Ueda หากมี GPS ให้คุณพิมพ์หมายเลขโทรศัพท์ 0268-86-2331 ลงในอุปกรณ์แล้วระบบจะพาคุณไปยังพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง Utsukushigahara และจะสามารถเดินทางต่อไปทางใต้ตามเส้นทาง Venus Line ได้จากที่นั่น

สำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้าใจภาษาญี่ปุ่น สามารถดูแผนที่นี้ประกอบการวางแผนการเดินทางได้

(กลับไปที่บทความ)

(4) ที่พัก Shimosuwa Honjin

ที่นี่มีชื่อเสียงว่ามีสวนที่สวยที่สุดตลอดเส้นทาง Nakasendo เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพอันเงียบสงบจากห้อง Jodan-no-Ma ซึ่งเจ้าหญิง Kazunomiya เคยพักอยู่ระหว่างการเดินทางจากเกียวโตไปยังเอโดะ(โตเกียว) และโรงแรมขนาดเล็กแบบญี่ปุ่นที่ชื่อ Chousenkaku Kameya ก็เป็นส่วนหนึ่งของที่พัก Honjin เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจจะเข้าพักที่นั่น

เวลาทำการ: 9:00 - 18:00 น.
ราคา: ผู้ใหญ่ 400 เยน / เด็ก 200 เยน
วันหยุด: ไม่มี

(กลับไปที่บทความ)

(5) พิพิธภัณฑ์นาฬิกา Gishodo

เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติของนาฬิกาและนาฬิกาข้อมือ และคุณยังสามารถเป็นเจ้าของนาฬิกาข้อมือเพื่อเป็นที่ระลึกได้โดยการทำเวิร์คช็อปที่เริ่มต้นที่เพียง 2,700 เยนสำหรับนาฬิกาทั่วไป ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีในการทำ (ค่าเข้าชมแยกต่างหาก) มีเวิร์คช็อปที่ใช้เวลานานกว่านี้แต่ต้องทำการจองล่วงหน้า

เวลาทำการ: 9:00 - 17:00 น.
ราคา (เฉพาะค่าเข้าชม): ผู้ใหญ่ 800 เยน / เด็ก 400 เยน
วันหยุด: ไม่มี (ตั้งแต่เดือนธันวาคม - เดือนกุมภาพันธ์ ปิดวันพฤหัสบดี)

(กลับไปที่บทความ)

(6) พิพิธภัณฑ์ Suwa-no-Ne Orgol

พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ที่ Shimosuwa มีห้องจัดแสดงกล่องดนตรีสไตล์ญี่ปุ่น ของที่ระลึกและคาเฟ่ รวมถึงพื้นที่เวิร์คช็อปที่สามารถสร้างกล่องดนตรีของคุณเองได้ โดยเลือกเพลงและเคสที่คุณชอบได้ในราคา 2,200-2,600 เยน (ไม่รวมค่าเข้าชม) เวิร์คช็อปใช้เวลาประมาณ 40 นาที ในช่วงเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนอาจมีผู้มาใช้บริการเยอะ ดังนั้นจึงควรโทรแจ้งล่วงหน้า

เวลาทำการ: 9:00 - 17:30 น. (ถึง 17:00 น. ในช่วงฤดูหนาว)
ราคา (เฉพาะค่าเข้าชม): ผู้ใหญ่ 1,000 เยน / เด็ก 500 เยน
วันหยุด: วันพุธและวันพฤหัสบดีแรกของเดือนกุมภาพันธ์

(กลับไปที่บทความ)